นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น พร้อมพลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯได้วิจารณ์เรื่องการขยายอิทธิพลทางทหารของจีน ซึ่งกระทบความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียระหว่างการเจรจาระดับทวิภาคี กับนายโมเตกิ โตชิมิตสึ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น และนายคิชิ โนบุโอะ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นในวันนี้ โดยนายบลิงเกน เตือนว่า สหรัฐฯและญี่ปุ่นจะใช้ปฏิบัติการทางทหารผลักดันเรือรบของจีนให้ออกจากพื้นที่พิพาทในแถบหมู่เกาะเซนกากุ หรือที่จีนเรียกว่าหมู่เกาะเตี้ยวหยูในทะเลจีนตะวันออก ถ้าหากมีความจำเป็น
นายบลิงเกน กล่าวว่าสหรัฐฯให้ความสำคัญกับเรื่องระบอบประชาธิปไตย,สิทธิมนุษยชนและหลักนิติรัฐ เนื่องจากสหรัฐฯมีประสบการณ์โดยตรงว่าหลักการเหล่านี้ช่วยให้ประเทศสหรัฐฯมีความเจริญก้าวหน้าและเข็มแข็งมากขึ้น แต่หลายประเทศในภูมิภาคนี้กลับไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ รวมถึงการทำรัฐประหารในเมียนมาเมื่อเร็วๆนี้ ส่วนประเทศจีนใช้วิธีการข่มขู่และก้าวร้าว ลิดรอนอำนาจปกครองตนเองในฮ่องกงอย่างเป็นระบบ ทำการคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยในไต้หวัน ละเมิดสิทธิมนุษยชนในมณฑลซินเจียงและทิเบต อีกทั้งอ้างอาณาเขตส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้โดยไม่เคารพหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
ด้านพลเอกออสติน กล่าวว่าประเทศจีนใช้เวลา 20 ปีที่ผ่านมาพัฒนากองทัพให้มีความทันสมัย ขณะที่สหรัฐฯให้ความสำคัญกับความมั่นคงในตะวันออกกลาง ระบุว่าเป้าหมายของสหรัฐฯคือการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันทางทหารให้เหนือกว่าจีนหรือประเทศใดก็ตามที่ต้องการจะคุกคามความมั่นคงของสหรัฐฯและพันธมิตร
นับเป็นการเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกโดยคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และมีขึ้นหลังนายไบเดนประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับผู้นำจากอินเดีย,ออสเตรเลียและญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว นับเป็นการประชุมผู้นำแบบพหุภาคีเป็นครั้งแรกของนายไบเดนนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม
Cr: CNN