ช่วงนี้เรายังคงต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 แนะนำว่าอย่าเพิ่งรีบไปเที่ยวไหน รักษาสุขภาพอนามัยกันก่อน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน รักษาระยะห่างระหว่างกัน สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ รอให้สถานการณ์คลี่คลายลงอีกนิดค่อยออกไปใช้ชีวิตนักเดินทางกันอีกทีด้วยวิถี New Normal แล้ว ททท.กับ จส.100 จะมีทริปเด็ด ๆ เส้นทางท่องเที่ยวดี ๆ มาบอกให้คุณได้เตรียมปักหมุดบนแผนที่ เช่นครั้งนี้เราจะชวนคุณท่องไปตามตะวัน มหัศจรรย์ท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า ว้าวไปกับตำนานอารยธรรมขอมโบราณ เหนือจินตนาการด้วยสถาปัตยกรรมวัดไทย ณ แดนดินถิ่นดอกลำดวนที่มีนามว่า “ศรีสะเกษ” เราจะพาคุณท่องไปจนถึงยามอาทิตย์อัสดง รับรองว่าม่วนซื่นแน่นอน ตามมาดูเส้นทางกันเลยจ้า
เส้นทางท่องเที่ยว : https://goo.gl/maps/m4tvYD5PHhjBH2QZ7
ผามออีแดง
ก่อนอื่น ขอชวนคุณไปชมตะวันเบิกฟ้าที่ “ผามออีแดง” จุดชมวิวที่สวยงามสุด ๆ บนพื้นที่สุดแดนสยาม ณ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อมาถึงจังหวัดศรีสะเกษแนะนำให้หาที่พักใกล้ ๆ กับผามออีแดง มีโรงแรมและรีสอร์ทให้บริการหลายแห่ง แล้วรุ่งขึ้นรีบตื่นออกเดินทางแต่เช้าโดยใช้ทางหลวงแผ่นดิน 221 ซึ่งเป็นถนนสองเลนเรียบ ๆ เส้นทางสะดวกขับรถสบาย ที่สำคัญควรมาถึงผามออีแดงก่อน 05.30 น. (ผามออีแดง เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 05.00–19.00 น.) จะได้ไม่พลาดบรรยากาศยามรุ่งอรุณบนหน้าผาหินสีแดงที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 556 เมตร แวดล้อมไปด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ สามารถมองเห็นผืนแผ่นดินประเทศกัมพูชาที่อยู่เบื้องล่างได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา รวมทั้งมองเห็นปราสาทเขาพระวิหารที่อยู่ถัดไปไม่ไกล หากคืนก่อนหน้ามีฝนตกลงมา เช้าวันถัดมาอาจโชคดีได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอก
พิกัดผามออีแดง : https://goo.gl/maps/wbS54eQZjZeooZKq5
นอกจากเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามแล้ว ผามออีแดงยังเป็นบริเวณที่มีการค้นพบโบราณสถานต่าง ๆ ในยุคอารยธรรมขอม โดยเฉพาะภาพแกะสลักนูนต่ำบนผาหินอายุกว่า 1,500 ปี เป็นภาพบุคคล 3 คนในท่านั่ง สันนิษฐานว่าเป็นรูปเคารพอันศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกแกะสลักขึ้นมาในช่วงก่อสร้างปราสาทเขาพระวิหาร ดังนั้นหากได้มาเที่ยวผามออีแดงทั้งทีอย่าลืมแวะไปที่บันไดไม้เลียบหน้าผา (ทางลงไปชมภาพแกะสลักนูนต่ำ) ก้าวเดินลงมาอีก 200 เมตร คุณจะได้พบกับประติมากรรมขอมโบราณที่บ่งบอกถึงความเจริญทางศิลปะ อารยธรรมในความศรัทธา และความเร้นลับจากอดีตกาลที่เป็นปริศนามาจนถึงปัจจุบัน
ปราสาทโดนตวล
เมื่อท่องเที่ยวอยู่บนแผ่นดินถิ่นขอมในตำนาน มาตามรอยอาณาจักรโบราณให้ต่อเนื่อง มีเรื่องเล่าขานถึงปราสาทขอมขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าริมผาบนเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งต่อมาได้รับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อยู่ไม่ไกลเพียงออกจากผามออีแดงย้อนไปเส้นทางเดิมประมาณ 7 กิโลเมตร มองขวาจะเห็นถนนลาดยางขนาดสองเลนแยกจากทางหลวงแผ่นดิน 221 ให้ขับเข้าไปอีก 4 กิโลเมตร คุณจะพบกับ “ปราสาทโดนตวล” ที่มีโครงสร้างแบบสถาปัตยกรรมขอม ประกอบด้วย ปรางค์ประธาน 1 หลังซึ่งก่อด้วยอิฐและศิลาแลง ภายในเป็นห้องครรภคฤหะ (ห้องบูชาเทวรูปหรือรูปเคารพ) ด้านหน้าปรางค์เป็นอาคารโถงที่ยังคงโครงสร้างกรอบประตูมุขและเสาหินทราย 4 ต้น สันนิษฐานว่าเป็นเสารองรับหลังคามณฑป ถัดออกไปมีเสาหินทรายอีก 4 ต้นคาดว่าเป็นโคปุระ (ซุ้มประตู) ข้าง ๆ ปรางค์พบฐานศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมคาดว่าเป็นโครงสร้างของบรรณาลัย (ที่เก็บรักษาคัมภีร์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์) และพบบาราย (สระกักเก็บน้ำ) อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ผามออีแดง - ปราสาทโดนตวล : https://goo.gl/maps/sxsL5Kc8ahHWqfeL9
วัดพระธาตุสุพรรณหงส์
ได้เวลาเดินทางกันยาว ๆ ถึงคราวไปชมความงามของวัดไทยในเมืองศรีสะเกษ ซึ่งเลื่องลือถึงความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม ออกจากปราสาทโดนตวลกลับไปบนทางหลวงแผ่นดิน 221 มุ่งหน้าสู่อำเภอเมืองศรีสะเกษเป็นระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร พอถึงสี่แยก อส. ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนทองมาก (ทางหลวงแผ่นดิน 294) ขับไปอีก 2 กิโลเมตร จะพบทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดิน 226 แล้วตรงไปอีก 1.2 กิโลเมตร พอถึงสี่แยกให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนวิจิตรนคร ขับตรงไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบทางแยกให้เบี่ยงซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบท ศก.4053 (ไปทางบ้านคูซอด) แล้วขับตรงไปอีก 3 กิโลเมตร พอเจอทางโค้งที่มีทางแยกให้เบี่ยงซ้ายขับไปบนถนนสายหลักอีก 5 กิโลเมตร สองข้างทางเริ่มเห็นเป็นทุ่งนา ริมถนนจะมีป้ายบอกทางไป “วัดพระธาตุสุพรรณหงส์” ที่ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยไปอีกเพียง 800 เมตร ก็ถึงแล้วจ้า
ณ บ้านหว้าน ตำบลน้ำคำ อำเภอเมืองศรีสะเกษ เป็นที่ตั้งของวัดที่มีอุโบสถกลางสระน้ำบนเรือสุพรรณหงส์จำลองอันสวยงามตระการตา ก่อเกิดจากแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในชุมชน ซึ่งร่วมกันบริจาคที่ดินและทุนทรัพย์จัดตั้งวัดประจำหมู่บ้านเมื่อปี 2550 พร้อมทั้งสร้างอุโบสถทรงจตุรมุขกลางสระน้ำบนเรือสุพรรณหงส์จำลองขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 13.60 เมตร และได้รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุให้มาประดิษฐานไว้ในอุโบสถ สร้างความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่มาสักการะไหว้พระขอพร โดยวัดพระธาตุสุพรรณหงส์เป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีพุทธที่อยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมท้องถิ่นวิถีอีสาน ชาวบ้านหว้านเป็นพุทธศาสนิกชนที่มีความผูกพันและสามัคคี ทุกวันอาทิตย์จะร่วมกันทำบุญใส่บาตรและจัดตลาดนัดโบราณ คุณสามารถมาเที่ยวชมวัดให้เพลินตา หรือจะสักการะไหว้พระให้เจริญใจ หรืออยากสัมผัสวิถีชุมชนก็ตามสบาย เป็นจุดหมายที่แม้ไม่ใช่สายบุญก็ไปเที่ยวได้เลยจ้า
ปราสาทโดนตวล - วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ : https://goo.gl/maps/ceYHbkVHofQ8HfjT6
วัดบ้านสร้างเรือง (พระธาตุเรืองรอง)
หากคุณประจักษ์ในความงามของอุโบสถกลางสระน้ำบนเรือสุพรรณหงส์จำลองแล้ว ลองไปทัศนากันต่อที่วัดบ้านสร้างเรือง ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน ออกจากชุมชนบ้านหว้าน แล้วเลี้ยวซ้ายกลับไปบนทางหลวงชนบท ศก.4053 ตรงไปอีก 800 เมตร ด้านขวาจะมีถนนลาดยางขนาดสองเลนแยกจากถนนหลัก ให้เลี้ยวเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร คุณก็จะถึงวัดที่มีนามเลื่องลือด้วยชื่อ “พระธาตุเรืองรอง” พุทธสถานอาคารสูง 6 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อปี 2525 มีความงดงามโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมไทยผสมผสานกับศิลปวัฒนธรรมของ 4 ชนเผ่าพื้นบ้านอีสานใต้ ได้แก่ เขมร, ส่วยหรือกูย, ลาว และเยอ
นอกจากเป็นสถานปฏิบัติศาสนกิจและเผยแพร่หลักธรรมคำสอนแล้ว วัดบ้านสร้างเรืองยังเป็นแหล่งความรู้ด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวิถีชีวิตของ 4 ชนเผ่า เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่ได้รวบรวมรากฐานความเป็นมาของชุมชนให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษา โดยอาคารพระธาตุเรืองรอง แบ่งพื้นที่เป็น 6 ชั้น ประกอบด้วย
ชั้นที่ 1 พิพิธภัณฑ์จัดแสดงวิถีชีวิต คติคำสอนพื้นบ้าน และตำนาน
ชั้นที่ 2 พิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และประเพณีท้องถิ่น
ชั้นที่ 3 พิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ
นอกจากนั้นบนฝาผนังชั้นที่ 1–3 ยังประดับภาพจิตรกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวของจังหวัดศรีสะเกษ
อาทิ เทศกาลงานประเพณีต่าง ๆ สถานที่ท่องเที่ยว และเหตุการณ์สำคัญ
ชั้นที่ 4 ประดิษฐานพระพุทธรูปให้สักการะ
ชั้นที่ 5 ใช้สำหรับนั่งทำสมาธิ
ชั้นที่ 6 เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมเกศาธาตุ อย่าลืมขึ้นมาสักการะขอพรเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ชีวิต พร้อมทั้งชมวิวทิวทัศน์ ณ จุดบนสุดของพระธาตุเรืองรองซึ่งสามารถมองแบบ 360 องศา เห็นเป็นบรรยากาศชุมชนกับท้องนาสวยงามตายิ่งนัก
วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ - พระธาตุเรืองรอง : https://goo.gl/maps/gYbRAJLNrba7CPPh7
เกาะกลางน้ำศรีสะเกษ
ก่อนตะวันรอน เราจะพาสัญจรไปเดินกินลมชมอาทิตย์อัสดงที่แลนด์มาร์กของเมืองศรีสะเกษ ออกจากวัดบ้านสร้างเรืองแล้วเลี้ยวซ้ายขับไปตามทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร พอถึงแยกให้เลี้ยวซ้ายอีกทีเพื่อเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดิน 2373 ตรงไปอีก 3.5 กิโลเมตร พอถึงแยกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดิน 226 ขับไปอีก 800 เมตร พอถึงสี่แยกจึงเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนกสิกรรมแล้วขับไปอีก 2.5 กิโลเมตร พอถึงแยกให้เลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดิน 220 ตรงไปอีก 1 กิโลเมตร เจอสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดิน 294 ขับไปตามทางอีก 3 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมายปลายทาง คือ “เกาะกลางน้ำศรีสะเกษ”
เกาะกลางน้ำศรีสะเกษ หรือ เกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำ ตั้งอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำ ซึ่งเดิมเป็นป่ารกบึงร้าง ก่อนจะถูกปรับภูมิทัศน์ให้เป็นสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวบนเนื้อที่กว่า 98 ไร่ ประกอบด้วยสวนเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นพื้นที่ให้ประชาชนได้มาพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย, ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ มีพันธุ์ปลาสวยงามและพันธุ์ปลาหายากมากมายมาจัดแสดงให้ความรู้แก่ผู้สนใจ, หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่มีความสูงกว่า 84 เมตร ชั้นล่างจัดเป็นห้องนิทรรศการ ส่วนชั้นบนสุดเป็นห้องโถงสำหรับชมวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบ นอกจากนั้นเกาะกลางน้ำแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานประเพณีและกิจกรรมต่าง ๆ ถือเป็นแลนด์มาร์กที่ชาวเมืองศรีสะเกษและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาชมทัศนียภาพอันสวยงามโดยเฉพาะในยามเย็น ซึ่งเราจะชวนคุณมาเดินเล่นจนได้เห็นอาทิตย์อัสดงตกลงบนแดนดินถิ่นดอกลำดวน
พระธาตุเรืองรอง – เกาะกลางน้ำศรีสะเกษ : https://goo.gl/maps/GoPiScChj1DfWdWR7
ตะวันลาลับฟ้า ได้เวลาไปหาที่พักผ่อนเพื่อนอนเอาแรง มีโรงแรมดี ๆ มากมายในตัวเมืองให้ได้คุณเลือกเข้าพักตามใจชอบ แล้วรุ่งขึ้นค่อยเดินทางกลับ หรือหากมีเวลาก็อาจไปเที่ยวต่อ เพราะจังหวัดศรีสะเกษยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายหลายอำเภอให้คุณได้ไปเจอะเจอ เผลอ ๆ อาจต้องใช้เวลาเที่ยวเพิ่มเติมกันอีกหลายวัน เห็นแล้วก็อยากไปใช่ไหมล่ะ แต่ยังไงช่วงนี้คงต้องอดใจไว้ก่อน เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายค่อยออกไปเที่ยวกันอีกทีด้วยวิถี New Normal ซึ่ง ททท. กับ จส.100 จะเตรียมทริปเด็ด ๆ เส้นทางท่องเที่ยวดี ๆ มาบอกคุณเป็นประจำ รับรองว่าได้ม่วนซื่นกันอีกแน่นอน
#หยุดยาวเที่ยวไหนดี
#1672เพื่อนร่วมทาง
#เที่ยวเมืองรองไปกับ1672
#TAT
#JS100