เห็นผล..! เชียงใหม่ ลดเสียชีวิตบนท้องถนนได้กว่า 100 ชีวิต 18 เดือน สวมหมวกกันน็อกเพิ่มขึ้น 80% ด้วยประสิทธิภาพ AI อัจฉริยะ

30 สิงหาคม 2565, 19:51น.


      เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายไมเคิล วู้ดฟอร์ด (Mr. Michael Woodford) ประธานกรรมการกองทุน Safer Road Foundation พร้อมคณะ ได้เข้าพบ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรายงานผลการดำเนินโครงการ กล้อง AI อัตโนมัติ ตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งโครงการกล้อง AI อัตโนมัติได้เริ่มต้นใช้งาน เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายของตำรวจ ภายใต้กองทุน Safer Road Foundation โดยมูลนิธิ Safer Road ได้สนับสนุนงบประมาณให้บริษัท Insane Intelligent ซึ่งเป็นบริษัทเดียวที่มีความสามารถพัฒนา AI Software ได้สำเร็จสมบูรณ์ และติดตั้งกล้อง CCTV เชื่อมต่อกับ AI Software สำหรับตรวจจับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย





      นพ.ธีรวุฒิ โกมุทบุตร ที่ปรึกษา สอจร. ภาคเหนือตอนบน ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา จ.เชียงใหม่ มีผู้ใช้รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตกว่า 500 คนต่อปี ซึ่งเกือบครึ่งอยู่ใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง สันทราย สารภี หางดง และแม่ริม โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดอุบัติเหตุหลังเวลา 18.00 น. เพราะช่วงกลางคืนยังไม่มีวิธีที่จะบังคับใช้กฎหมายให้สวมหมวกนิรภัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตก่อนการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยตำรวจในการตรวจจับผู้กระทำผิดนั้น พบว่าจากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งหมด 504 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตจากกลุ่มรถจักรยานยนต์สูงถึง 398 คน ทางด้านมูลนิธิ Safer Road ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุ การลดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตบนท้องถนนในประเทศไทย จึงได้มอบงบสนับสนุนแก่จังหวัดเชียงใหม่ ในการติดตั้งกล้อง AI อัตโนมัติ ตรวจจับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย จำนวนทั้งหมด 13 ชุด ใน 5 อำเภอ เป็นจำนวนเงินประมาณ 13 ล้านบาท



      ผลการประเมินภายหลังใช้งานมา 18 เดือน พบว่า ประชาชนใน 5 อำเภอ มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 80 และมีอัตราการเสียชีวิตลดลงกว่า 100 ราย โดย พันตำรวจเอก ไพศาล นันตา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในทุกๆ ปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลของจังหวัดเชียงใหม่ จะมีการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แม้จะมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในการจัดตั้งด่านชุมชนและด่านบูรณาการแล้วก็ตาม แต่ยังคงเกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิตอยู่ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ดังนั้น การใช้กล้อง AI อัตโนมัติ ตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัย จึงน่าจะเป็นวิธีที่แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดในขณะนี้

      นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “นับเป็นบรรยากาศแห่งความปลื้มปิติ และความโชคดีของคนเชียงใหม่ ที่คุณไมเคิลได้เข้ามาช่วยเหลือคนเชียงใหม่ให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะอุบัติเหตุจากการขับรถจักรยานยนต์ และผู้ใช้รถไม่ป้องกันตนเองจากความเสี่ยงเหล่านี้ เช่น การสวมหมวกนิรภัย เชียงใหม่ได้รับการช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน ขอยกย่องให้คุณไมเคิลเป็นฮีโร่ของคนเชียงใหม่อีกหนึ่งท่าน นอกจากนี้ อีกสิ่งสำคัญในพื้นที่ คือการบังคับใช้กฎหมาย แต่ด้วยบทบาทของตำรวจต้องดูแลในหลายหน้าที่ การสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนมีความปลอดภัยจึงสำคัญ และยืนยันว่าจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยของคนเชียงใหม่ ตั้งใจลดอุบัติเหตุให้น้อยลงมากที่สุด จึงขอขอบพระคุณมากๆ”





      จากนั้น Mr.Michael Woodford และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานจริงและดูผลการดำเนินการของการใช้กล้อง AI อัจฉริยะ ตรวจสอบผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกกันน็อก ณ ศูนย์ปฏิบัติการจราจร กลุ่มงานจราจร จังหวัดเชียงใหม่









      Mr.Michael Woodford ประธานมูลนิธิ Safer Road กล่าวว่า “ในสยามเมืองยิ้มแห่งนี้ มีผู้คนบางคนที่ไม่ได้ยิ้ม เพราะอะไร...? เพราะเขาสูญเสียคนที่รักจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ แพทย์สามารถช่วยเหลือคุณได้หากบาดเจ็บที่แขนหรือขา แต่หากเป็นสมอง การช่วยเหลือนั้นจะยากมากขึ้น” เวลาที่ตนเห็นผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วไม่ใส่หมวกกันน็อก ทำให้รู้สึกกังวล อดห่วงไม่ได้ และตระหนักว่าถ้าตำรวจมีเทคโนโลยีที่ดี เสริมประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย จะลดการสูญเสียได้ การทำให้คนสวมหมวกนิรภัยนั้นเป็นสิ่งที่ดี เป็นโครงการที่ต้องการเห็นจำนวนความสูญเสียลดลง นับตั้งแต่ปี 2557 ที่ตนได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่สะเมิง แม่ริม เป็นต้นมา การทำให้งานลดความสูญเสียเป็นเรื่องที่สำคัญ และการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยรักษาชีวิต “ทำให้ดีที่สุด รักษาชีวิตไว้”



      หลังจากนั้น Mr.Michael Woodford และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมจุดติดตั้งกล้องอัจฉริยะ ณ สี่แยกหนองประทีปและสี่แยกสันคะยอม







      ปิดท้ายด้วยการเดินทางไปชมการปฏิบัติการ ณ ห้องศูนย์ข้อมูลระบบกล้องอัจฉริยะ สถานีตำรวจภูธรสันทราย





      ตัวเลขการสูญเสียที่ลดลง เป็นผลมาจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ผนวกกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย รวมถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งองค์กรและประชาชน นับเป็นโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทย จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงดำเนินแผนงาน โครงการ กล้อง AI อัตโนมัติ ตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัย ต่อไป ปรับปรุงในส่วนที่สามารถปรับได้ รักษามาตรฐานการดำเนินงานในส่วนที่ดีแล้ว เพื่อเป็นต้นแบบและนำไปต่อยอดในจังหวัดอื่นๆต่อไป







การสวมหมวกกันน็อกที่เพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพ AI อัจฉริยะลดเสียชีวิตบนท้องถนนได้อย่างยั่งยืน 

Safer Road Foundation โดยมูลนิธิ Safer Road
X