ต้อนรับวันแห่งความรัก จดทะเบียนสมรส ต้องใช้อะไรบ้าง? ต้องมีคุณสมบัติแบบไหน?

      ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรักของทุกปี มักจะมีคู่รักเดินจูงมือกันไปจดทะเบียนสมรสกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีนี้มีหลายสำนักงานเขตในกรุงเทพมหานครและสำนักงานเขตในหลายๆจังหวัดได้จัดกิจกรรมให้คู่รักได้ร่วมสนุกภายในงาน ลุ้นรับของรางวัล อีกทั้งยังมอบของที่ระลึกเพื่อเป็นของขวัญและเฉลิมฉลองความสุขให้กับคู่รักในวันนี้

      แม้วันอื่นจะไม่ใช้วันแห่งความรัก การจดทะเบียนสมรสก็สามารถจดได้ทุกวันตามฤกษ์งามยามดีที่หาไว้ สำหรับคนที่อยากจดทะเบียนสมรสเพื่อเปลี่ยนสถานะจากคู่รักให้เป็นสามี-ภรรยาตามกฎหมาย ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างและต้องมีคุณสมบัติแบบไหน ไปดูกัน

คุณสมบัติของผู้ที่จะจดทะเบียนสมรส

- ชายหรือหญิง ที่มีอายุครบ 17 ปี บริบูรณ์ กรณีมีเหตุอันควร ศาลอาจอนุญาตให้ทำการสมรสก่อนที่ชายและหญิงมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ได้

- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือเป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ

- ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา

- ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น

- ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้

- กรณีหญิงหม้ายจะสมรสใหม่ เมื่อการสมรสครั้งก่อนได้สิ้นสุดไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน (เว้นแต่คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น, สมรสกับคู่สมรสเดิม, มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์หรือศาลมีคำสั่งให้สมรสได้)

- กรณีผู้เยาว์จะทำการสมรส ต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจให้ความยินยอมได้ตามกฎหมาย

เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนสมรส

- บัตรประจำตัวประชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ (สำหรับบุคคลซึ่งไม่ต้องมีบัตรประจำตัวตามกฎหมาย)

- สำเนาทะเบียนบ้าน

- สำเนาหนังสือเดินทาง (กรณีชาวต่างประเทศ)

- หนังสือรับรองสถานภาพบุคคลจากสถานทูตหรือสถานกงสุลหรือองค์การของรัฐบาลประเทศนั้น มอบหมาย พร้อมแปล (กรณีชาวต่างประเทศ)

ขั้นตอนในการขอจดทะเบียนสมรส

- การจดทะเบียนสมรสสามารถยื่นคำร้องขอจดทะเบียนได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง หรือสำนักงานเขตและสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศเขตใดก็ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงภูมิลำเนาของคู่สมรส

- คู่สมรสที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องนำบิดาและมารดาหรือผู้ปกครองโดยชอบธรรมมาให้ความยินยอม ณ วันที่จดทะเบียนสมรส

- ต้องมีพยานบุคคลจำนวน 2 คน

- หากคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่าย เป็นคนต่างด้าว ต้องขอหนังสือรับรองสถานภาพบุคคล  จากสถานทูตหรือกงสุลสัญชาติที่ตนสังกัด โดยที่หนังสือรับรองนั้นต้องแปลเป็นภาษาไทยและมีคำรับรองการแปลถูกต้อง และนำเอกสารยื่นพร้อมคำร้องขอจดทะเบียนสมรสต่อนายทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอ กิ่งอำเภอ หรือสำนักงานเขต

      การจดทะเบียนสมรส ณ สำนักทะเบียนที่จด ไม่จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียม หากแต่การจดทะเบียนสมรสนอกสำนักทะเบียนจะต้องเสียค่าธรรมเนียน 200 บาท  พร้อมจัดเตรียมรถรับ - ส่ง นายทะเบียนการจดทะเบียนสมรสนอกสำนักทะเบียนในท้องที่ห่างใกล โดยเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 1 บาท

ที่มา : สำนักบริหารการทะเบียน