!-- AdAsia Headcode -->
นับว่าเป็นโชคดีของสังคมในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะประเทศไทยที่เปิดกว้างในเรื่องเพศมากขึ้น ทำให้เหล่า LGBTQ+ ได้มีบทบาทในสังคมมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนได้สลัดตัวตนเก่าๆที่ถูกปลูกฝังให้เป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ เปิดประตูสู่โลกใหม่และก้าวข้ามขีดจำกัดสู่ความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่นอกเหนือคำจำกัดความว่า ผู้หญิงต้องเป็นผู้หญิง ผู้ชายต้องเป็นผู้ชาย รวมไปถึงเรื่องราวของความรักที่แต่ก่อนการรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิดแปลก แต่ในสมัยนี้ไม่ว่าจะเพศไหนก็สามารถรักกันได้ไม่มีถูกผิด
จากกระแสของการตั้งกฎระเบียบทรงผมนักเรียนของโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทองที่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนกฎเดิม ๆ จากการไว้ผมสั้นยาว แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ นักเรียนทุกคนสามารถไว้ทรงผมได้ตามเพศวิถีของตนเอง ซึ่งในอนาคตนักเรียนยังสามารถแต่งตัวได้ตามเพศวิถีของตนเองอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเปิดกว้าง ยอมรับ และเข้าใจเหล่าเด็กๆที่เป็น LQBTQ+ และสนับสนุนพวกเขามากกว่าการกีดกั้นไม่ให้พวกเขาได้เป็นตัวของตัวเอง ทั้งนี้เด็กทุกคนยังต้องปฏิบัติตัวให้อยู่ในกฎระเบียบที่เหมาะสมไม่ทำอะไรที่เกินงาม
ทำความรู้จัก LGBTQ+ มีความหมายอะไรบ้าง
LGBTQ+ เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มเพศทางเลือกที่มีความหลากหลายเพศ เป็นกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศหรือเพศสภาพที่แตกต่างจากการเป็นหญิงชายทั่วไป เป็นการนำตัวอักษรแรกของ Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender และ Queer มารวมกัน โดยแต่ละตัวอักษรมีความหมายดังนี้
L = Lesbian กลุ่มคนที่เป็นหญิงรักหญิง เป็นได้ทั้งในความหมายของคนที่บุคลิกภายนอกและภายในเป็นหญิง หรือเป็นทอมดี้ที่ลักษณะภายนอกมีบุคลิกเหมือนชายแต่ภายในเป็นหญิง
G = Gay กลุ่มคนที่เป็นชายรักชาย โดยที่ลักษณะภายนอกมีบุคลิกเป็นผู้ชาย ใจเป็นชายและมีความชอบพอกันกับคนที่เป็นเพศเดียวกัน สำหรับบางคนอาจมีท่าทางคล้ายหญิง แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงลักษณะภายนอกของตัวเองให้เป็นสาวประเภทสองอย่างเต็มตัว
B = Bisexual กลุ่มคนที่สามารถชอบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยลักษณะภายนอกยังคงถือเพศสภาพของตัวเองเช่นเดิม แต่สามารถมีความรักและความสัมพันธ์ได้ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง
T = Transgender กลุ่มคนข้ามเพศ คือกลุ่มคนที่เกิดมามีเพศชายหญิงโดยธรรมชาติ แต่ภายในใจไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพศนี้จริงๆ หลายคนจึงเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นแบบที่ใจต้องการ ข้ามเพศจากชายเป็นหญิง หญิงเป็นชาย โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นตัวช่วย เช่น การศัลยกรรม การเทคฮอร์โมน รวมไปถึงการเปลี่ยนบุคลิกท่าทาง น้ำเสียง การแต่งกาย เรียกได้ว่าเปลี่ยนตัวเองทั้งภายในและภายนอกให้แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
Q = Queer เป็นกลุ่มคนที่ชอบเพศอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น หญิง ชาย ทอม ดี้ เลสเบี้ยน เกย์ สาวประเภทสอง หากถูกใจไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตามก็สามารถชอบได้ทั้งหมด
การเปิดเผยว่าเป็น LGBTQ+ ไม่ใช่เรื่องง่าย
แม้ว่าเราจะมองเห็นกลุ่มคนที่เป็น LGBTQ+ หลายคน ดูมีความสุขกับการได้ใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ แต่หารู้ไหมว่ารอยยิ้มบนใบหน้าที่สดใสเหล่านั้นเคยมีคราบรอยน้ำตาเปื้อนอยู่ เหล่าผู้คนที่เป็น LGBTQ+ หลายคนเคยมีประสบการณ์ที่เลวร้ายฝังลึกอยู่ในใจ แม้ในปัจจุบันโลกของเราได้มีความเปิดกว้างมากขึ้น แต่การบูลลี่ ดูถูก เหยียดหยาม กลั่นแกล้ง นั่นไม่ได้หายไป 1 ใน 3 ของเด็กนักเรียนที่เป็น LGBTQ+ในไทย ถูกทำร้ายร่างกายเพราะตัวตนทางเพศ พวกเขาทั้งถูกรังแก กลั่นแกล้ง มากกว่าคนทั่วไป และหลายคนเคยพยายามฆ่าตัวตาย สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ว่าเราจะเปิดเผยตัวตนออกมาว่าเป็นเพศอะไร รวมไปถึงคนที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย ฐานะ หากอยู่ในสังคมที่มีค่านิยมแบบเก่า ไม่เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ ไม่เห็นด้วยกับความแตกต่าง เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่จะถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจนั้นก็สูงตามค่านิยมของสังคม
อย่างไรก็ตามความหลากหลายทางเพศไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่มันคือความแตกต่าง ในทางการแพทย์บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศไม่ได้เป็นโรค หรือมีความผิดปกติทางจิตใจแต่อย่างใด เพียงแต่ในตัวพวกเขามีส่วนผสมที่แตกต่าง เช่น ฮอร์โมน สารเคมีในสมอง การเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อมโดยรอบ พื้นฐานทางสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้นี่แหละคือตัวหล่อหลอมให้เด็กคนหนึ่งได้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่แตกต่างในปัจจุบัน
ความหลากหลายทางเพศ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม สิ่งต่างๆรอบตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม นั้นอยู่ที่ใจของเราเองมากกว่า ว่าจะมองทุกอย่างออกมาในรูปแบบไหน ท้ายที่สุดเราก็แค่มนุษย์คนหนึ่งเท่านั้นที่ได้เกิดออกมาและใช้ชีวิต ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ผิวสีอะไร เชื้อชาติอะไร หรือมีหน้าตาแบบไหน เราทุกคนต่างมีคุณค่าในตัวเอง อย่าให้ใครมาตัดสินคุณค่าความเป็นคุณ