!-- AdAsia Headcode -->
บัญชีม้า คือ บัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลอื่น ที่นำมาใช้เป็นช่องทางการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การถ่ายโอนเงิน การรับเงินการโอนเงิน ซึ่งเงินที่ได้มาจากการกระทำผิด จุดประสงค์การเปิดบัญชีม้าคือ เพื่อป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัวผู้กระทำผิดได้
การเปิดบัญชีม้าในปัจจุบันเป็นการจ้างให้บุคคลอื่นมาเปิดบัญชีแทน หรือรับซื้อบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลทั่วไป มีการขายบัญชีเงินฝากธนาคารอย่างเปิดเผย ตั้งแต่ราคา 800 บาท จนถึง 20,000 บาท โดยผู้ที่จะขายบัญชีม้าจะต้องมีการส่งมอบเอกสาร เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ซิมการ์ดโทรศัพท์ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของบัญชีไปผูกกับ mobile banking และทำธุรกรรมออนไลน์ได้ทันที
บัญชีม้าถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการฉ้อโกง การพนัน ยาเสพติด และความผิดอื่นๆ กรณีที่พบเห็นมากที่สุด คือ การหลอกให้กู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้ต่าง ๆ และผ่านช่องทางแอปพลิเคชันไลน์ รวมไปถึงแก๊งคอลเซนเตอร์ที่โทรศัพท์มาหลอกลวง หว่านล้อม ให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และทำการโอนเงินไปยังบัญชีม้าของมิจฉาชีพ
บัญชีม้าอันตรายยังไง?
มิจฉาชีพส่วนใหญ่มักมีกลอุบายในการโกงและทำงานกันเป็นขบวนการ ส่วนใหญ่มิจฉาชีพมักมีบัญชีม้าหลายบัญชี เพื่อใช้การโอนเงินส่งต่อกันเป็นทอดๆ จากอีกหนึ่งบัญชีสู่อีกหนึ่งบัญชี อาจมีการส่งต่อมากกว่า 4-5 บัญชี เพื่อป้องกันตัวเองจากการตรวจสอบของตำรวจหรือการถูกอายัดเงิน
ผู้กระทำผิดต้องโทษอะไรบ้าง?
หากมีการตรวจสอบจนพบเส้นทางการเงินของต้นตอมิจฉาชีพ ทั้งตัวผู้ว่าจ้างและเจ้าของบัญชีเงินฝากที่เป็นผู้เปิดบัญชีจะต้องถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 หรือ มาตรา 86 ฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการทำความผิดฐานฉ้อโกง ทั้งการเปิดบัญชี ซื้อขาย ให้เช่าหรือให้ยืม ต้องระวางโทษจำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 300,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นธุระจัดหาและทำการโฆษณา ก่อให้เกิดการซื้อขาย ให้เช่ายืมบัญชี ต้องระวางโทษจำคุก 2-5 ปี หรือ ปรับ 200,000-500,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ในปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพเริ่มมีการเปลี่ยนรูปแบบการโอนเงินเข้าบัญชี โดยหันไปใช้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ของผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) นอกจากนี้ คนร้ายอาจใช้บัญชี cryptocurrency wallet ซึ่งไม่ได้เปิดใช้บริการผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (digital asset exchange) ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย โดยคนร้ายอาจจะทำการโอน cryptocurrency แบบ Peer-to-Peer (P2P) หรือผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ในต่างประเทศ
หากโดนฉ้อโกงเป็นผู้เสียหายต้องการแจ้งความดำเนินคดีหรือพบเห็นพฤติกรรมเข้าข่ายการฉ้อโกง สามารถแจ้งความออนไลน์ ได้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ www.thaipoliceonline.com หรือ www.pct.police.go.th หรือโทร. 08 1866 3000 หรือสายด่วน 1441
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย