สสส. เปิดโครงการ “สวมหมวกกันน็อกเพื่อแบดฯ ลูก” เน้นเสริมทักษะกีฬาแบดมินตันให้กับเด็กและเยาวชน ด้านผู้ปกครองต้องปรับพฤติกรรมสวมหมวกกันน็อกเพื่อให้บุตรหลานได้ฝึกพื้นฐานแบดมินตัน

05 ตุลาคม 2566, 13:25น.


   ​นายแพทย์ไพโรจน์ เสาน่วม  ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นประธานเปิดโครงการ “สวมหมวกกันน็อกเพื่อแบดฯ ลูก” โดยกล่าวว่า โครงการนี้เป็นแนวคิดบูรณาการ “วินัยทางกีฬา” เข้ากับ “วินัยการจราจร” โดยนำการเล่นกีฬาแบดมินตันเป็นเครื่องมือสร้างความปลอดภัยให้กับเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 5-15 ปี ที่หวังว่าเป็นการส่งเสริมกิจกรรมด้านกีฬาช่วงปิดเทอมไปพร้อมกับการรณรงค์ส่งเสริมให้ครอบครัวกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์สวมใส่หมวกนิรภัยทุกครั้งก่อนขับขี่หรือซ้อนท้าย





 โดยที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. เป็นหน่วยงานที่ทำงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดีทั้ง 4 มิติ โดยมีการดำเนินงานหลากหลายด้านหลายมิติ การจัดการความปลอดภัยทางถนน เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่ สสส. และภาคีร่วมขับเคลื่อน และในครั้งนี้ได้ร่วมกับ แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) ภาคีงานด้านความปลอดภัยทางถนน จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเพิ่มอัตราการสวมหมวกนิรภัย ลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตในกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และมุ่งเน้นปกป้องดูแลความปลอดภัยของกลุ่มเด็กและเยาวชน




 โครงการฯ นี้ ถือว่า มีส่วนทำให้ ผู้ปกครอง ครอบครัว ได้หันมาปรับพฤติกรรมเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้กับคนในครอบครัว คือ ต้องสวมหมวกกันน็อกทั้งครอบครัวตลอดระยะเวลาที่บุตรหลานเข้าเรียนแบดมินตันช่วงปิดภาคเรียนการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยมีเงื่อนไขว่าหากพบว่าไม่สวมหมวกเกิน 3 ครั้ง อาจถูกติดสิทธิ์เรียนฟรี แต่หากผู้ปกครองสวมหมวกกันน็อกตลอดระยะเวลาที่บุตรหลานเรียนแบดมินตัน จะได้สิทธิ์เรียนต่อในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน หรือ ช่วงเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดราชการ
 


 ทั้งนี้ เป้าหมายของการดูแลรักษาชีวิตของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีทั้งภาคส่วนราชการ เอกชน ชุมชน คือ กระตุ้นให้คนไทยที่ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ทุกเพศ ทุกวัย เพื่อลดการเสียชีวิตหรือพิการจากอุบัติเหตุทางถนน และหมวกกันน็อก เป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือช่วย #Save สมอง และหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2570 ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านความปลอดภัยทางถนน และยังใช้การเล่นกีฬาเป็นเครื่องมือดึงดูดให้กลุ่มนักกีฬาที่ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย  ป้องกันปัญหาการเล่นการพนัน สูบบุหรี่ ติดสารเสพติด หรือ ติดเกมส์ ช่วงปิดภาคเรียนได้อีกด้วย



   ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนและอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยเฉลี่ยปีละกว่า 19,246 คน (ข้อมูลจากกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข) หรือ 25.92 คน ต่อประชากรแสนคน ช่วงอายุที่เสียชีวิตอยู่ที่ 20-24 ปี แต่ถ้าแบ่งเป็นเพศแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย โดยเฉพาะช่วงอายุระหว่าง 15-19 ปี และ 20-24 ปี ที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งหมด เกิดกับผู้ใช้รถจักรยานยนต์มากที่สุดถึงร้อยละ 80.85 มูลค่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสูงถึง 511,515 ล้านบาท จำนวนผู้บาดเจ็บสะสม 5.9 ล้านคน พิการ 49,644 คน


​สำหรับสนามแบดมินตัน ที่เข้าร่วมโครงการ “สวมหมวกกันน็อกเพื่อแบดฯ ลูก” มีจำนวนทั้งสิ้น 5 แห่ง ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย


(1) คอร์ทแบดมินตันจังหวัดขอนแก่น จำนวน 1 แห่ง (PS Badminton)


(2) คอร์ทแบดมินตันจังหวัดหนองคาย จำนวน 1 แห่ง (Relax Badminton)


(3) คอร์ทแบดมินตันจังหวัดอุดรธานี จำนวน 2 แห่ง (ตรีเลิศ และ BB Court)


(4) คอร์ทแบดมินตันกรุงเทพฯ จำนวน 1 แห่ง (71 คอร์ทแบดมินตัน)


มีจำนวนเด็กที่สมัครเข้าร่วมกว่า 121 คน จาก 121 ครอบครัว





 โครงการ “สวมหมวกกันน็อกเพื่อแบดฯ ลูก” ได้รับการสนับสนุนแนวคิด วิธีการดำเนินงาน ตามเป้าประสงค์ และยุทธศาสตร์ของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ที่ต้องการสร้างสังคม ประเทศชาติ และสถาบันครอบครัว ให้เป็นรากฐานที่มั่นคง ปลอดภัย









 
X