!-- AdAsia Headcode -->

สัญญาได้บ่...ศรีสะเกษลุยตั้ง “ด่านชุมชนปากหวาน” สื่อสารเชิงบวก เพิ่มอัตราใส่หมวกกันน็อค

วันนี้, 17:00น.


      วันที่ 26 พ.ย. 2567 แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการถอดรหัสความสำเร็จ “ด่านชุมชนปากหวาน” เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยพัฒนากลยุทธ์ ขยายผลสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เนื่องจากผลการศึกษาพบว่าด่านชุมชนปากหวาน สามารถเพิ่มอัตราสวมหมวกนิรภัยได้ถึง 90-95% ตั้งแต่ต้นปี 2567 จังหวัดศรีสะเกษจึงได้ขับเคลื่อน ตั้งด่านชุมชนปากหวานครอบคลุม ทั้ง 22 อำเภอ และ 216 ตำบล

      ดร.อนุพันธ์ สุวรรณพันธ์ นักวิจัยโครงการด่านชุมชนปากหวาน สร้างนวัตกรรมความปลอดภัยทางถนนด้วยพลังชุมชน เปิดเผยว่า แนวคิดของด่านชุมชนปากหวาน คือเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน และรณรงค์สื่อสารเชิงบวก โดยพยามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนที่ใส่หมวกกันน็อคบางครั้ง ให้กลายมาเป็นใส่หมวกกันน็อคทุกครั้งเมื่อขับขี่ และเป็นต้นแบบให้คนที่ไม่เคยใส่เปลี่ยนมาใส่เพื่อความปลอดภัย ด้วยคำพูดที่ว่า “สัญญาได้บ่ครั้งหน้าจะใส่”



      “ผลสำเร็จจากพื้นที่ต้นแบบใน อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พบว่าสามารถเพิ่มอัตราสวมหมวกกันน็อค จาก 32% ในการตั้งด่านครั้งแรก เพิ่มเป็น 54% ในครั้งที่สิบ จังหวัดศรีสะเกษจึงนำมาขยายผลดำเนินการ” ดร.อนุพันธ์ กล่าว

      สำหรับความแตกต่างระหว่าง “ด่านชุมชนทั่วไป” ที่มุ่งไปที่การจัดการจราจรและบังคับใช้กฎหมาย ขณะที่ “ด่านปากหวาน” โดยผู้นำชุมชนและอาสาสมัคร ใช้แนวคิด Behavior Based Safety ซึ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้ขับขี่ ผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดำเนินงาน เน้นการให้คำแนะนำ รณรงค์ และสร้างแรงจูงจูงใจในการขับขี่ปลอดภัย เน้นเตือนด้วยความรักความห่วงใย ที่สำคัญตั้งได้ตลอด 365 วัน ยิ่งถี่ยิ่งสร้างความตระหนักรู้ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม



      ดร.อนุพันธ์ กล่าวว่า หัวใจสำคัญของด่านชุมชนปากหวาน คือการบันทึกข้อมูลและการรายงานผล เป็นขั้นตอนสำคัญของการดำเนินงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนเป็นระบบ สามารถนำไปวิเคราะห์วางแผนพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข และติดตามประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างยั่งยืน

      ด้าน นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบนโยบาย “วาระ 365 วัน ศรีสะเกษปลอดภัย : การขับเคลื่อนงานด่านชุมชนปากหวาน” กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็น 1 ใน 3 สาเหตุหลัก การเสียชีวิตในอันดับต้น ๆ ของจังหวัดศรีสะเกษ แต่ละเดือนมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 20 ราย บางเดือนขยับขึ้นไปเกือบ 30 ราย ซึ่งไม่ต้องการเห็นความสูญเสียจำนวนมากขนาดนั้น เพราะไม่เพียงส่งผลกกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน ยังส่งผลเสียโดยรวมต่อเศรษฐกิจของจังหวัดด้วย

      นายอนุพงศ์ กล่าวว่า กลไกสำคัญในการเสริมสร้างวินัยจราจร ต้องร่วมมือกันทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่าย และประชาชน จึงจะสามารถลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุลงได้ ด่านชุมชนปากหวานที่เน้นสื่อสารเชิงบวก เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นับว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างถนนปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน และขับเคลื่อนเป้าหมายของจังหวัดศรีสะเกษได้ประสบความสำเร็จ “การตั้งด่านเฉพาะช่วง 7 วันอันตรายไม่เพียงพอ เนื่องจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอด 365 วัน จึงต้องมีการสร้างระบบบริหารจัดการที่ดี มีการจัดตั้งศูนย์จัดการความปลอดภัย เพื่อแก้ปัจจัยเสี่ยงทั้งถนน ยานพาหนะ และแก้ไขพฤติกรรมผู้คน เชื่อมั่นว่าด่านชุมชนปากหวานจะช่วยป้องกัน และลดการเกิดอุบัติเหตุ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างวินัยจราจรที่ดี ให้กับพ่อแม่พี่น้องผู้ใช้รถใช้ถนน” นายอนุพงศ์ กล่าว



      ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนด่านชุมชนปากหวานจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้การขับเคลื่อนมีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากการขับเคลื่อนในระดับท้องถิ่น บางแห่งยังขาดความต่อเนื่องในการดำเนินงาน

X