ชป.ร่วมประชุมนานาชาติว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดินและน้ำฯ ชูความสำเร็จการทำนาเปียกสลับแห้งสู่สากล

09 ธันวาคม 2567, 15:44น.


      วันนี้ 9 ธ.ค. 67 นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดีกรมชลประทาน  นายบุรีรัตน์ วงศ์บุรี  เลขานุการกรมชลประทาน  และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานประชุมนานาชาติว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน และน้ำ เพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน  โดยมี  ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายฉู ตงหยู ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations หรือ FAO) รัฐมนตรีหรือผู้แทนระดับรัฐมนตรีของประเทศต่าง ๆ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมอย่างคับคั่ง งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ



      ทั้งนี้การจัดประชุมด้านวิชาการได้เน้นการจัดการและพัฒนาทรัพยากรดินที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการจัดการทรัพยากรทางการเกษตร สนับสนุนให้ปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ (Agri-Map) รวมถึงการส่งเสริมการทำการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Go Green) ด้วย BCG/Carbon Credit การลดการเผาตอซังพืช ลดการใช้สารเคมี และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบดิจิทัล แอปพลิเคชัน หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีอย่างทั่วถึง พัฒนาสู่เกษตรทันสมัยด้วยเทคโนโลยีด้านการเกษตร (Agri-Tech)



      ด้านรายงานของ FAO ว่าด้วยสถานการณ์ทรัพยากรดินและน้ำเพื่ออาหารและการเกษตรของโลก (SOLAW 2021) เน้นย้ำถึงสภาพวิกฤตของดิน และทรัพยากรน้ำอันเนื่องมาจากความรุนแรงของมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการจัดการที่ยั่งยืนของทรัพยากรพื้นฐานเหล่านี้ เพื่อปกป้องความมั่นคงทางอาหารในอนาคต แนวทางการจัดการทรัพยากรแบบผสมผสาน และจัดการกับความท้าทายของที่ดินและความเสื่อมโทรมของดิน การขาดแคลนน้ำ และคุณภาพน้ำลดลง เรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเน้นย้ำความจำเป็นของความร่วมมือระดับโลกในการเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างครอบคลุมยืดหยุ่นและยั่งยืน



      นอกจากนี้ภายในงานมีการนำเสนอนิทรรศการของหน่วยงานจาก FAO  และนิทรรศการของหน่วยงานราชการของไทย 8 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และกรมพัฒนาที่ดิน  โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นำเสนอเนื้อหาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 6 ศูนย์ทั่วประเทศ ที่แสดงเนื้อหาเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพของรัชกาลที่ 9 ด้านการแก้ไขปัญหาการเสื่อมโทรมของดินและการขาดแคลนน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรได้มีที่ทำการเกษตรได้อย่างเพียงพอ สร้างรายได้ให้กับครัวเรือน นอกจากนี้ยังได้มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 ศูนย์ เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมนิทรรศการได้รับชมจากผลิตภัณฑ์จริง



      และในส่วนนิทรรศการของกรมชลประทาน ได้นำเสนอการขยายผลการทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ซึ่งเป็นวิธีการทำนาที่สามารถจัดการน้ำและดินที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกษตรกรลดการใช้ปุ๋ย ต้นข้าวแข็งแรง ลดการระบาดของโรคและแมลง ลดการใช้สารเคมี ลดต้นทุนการผลิต รวงข้าวสมบูรณ์ ผลผลิตที่ได้รับเพิ่มขึ้น การทำนาแบบเปียกสลับแห้งนี้ เหมาะสำหรับพื้นที่ทำนาในเขตชลประทาน ที่ควบคุมการระบายน้ำได้ โดยใช้ปริมาณน้ำในการเพาะปลูกน้อยกว่าวิธีปลูกข้าวแบบทั่วไป 30-50% เพิ่มผลผลิตได้ 10% รวมทั้งสร้างรายได้ทางเลือกให้กับเกษตรกรจากการขายคาร์บอนเครดิตด้วย











 
X