สปสช. แจงแนวทางการใช้ “สิทธิบัตรทอง” เข้ารับการรักษาพยาบาลของ “ผู้มีรายชื่อในทะเบียนบ้านกลาง” ย้ำใช้ “สำเนาใบ ท.ร.14/1” หรือ “ท.ร.12” ยืนยันตัวตนรับบริการแทนบัตรประชาชนได้
รศ.ภญ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีการเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ของคนไทยที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง ซึ่งมีการหยิบยกขึ้นมาอภิปรายในขณะนี้ว่า สปสช. ยืนยันว่า แม้จะมีรายชื่อในทะเบียนบ้านกลาง แต่คนกลุ่มนี้มีสิทธิและสามารถเข้ารับบริการด้านสุขภาพในระบบบัตรทองได้ตามปกติ ไม่ได้ถูกจำกัดสิทธิแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา สปสช. ได้เคยมีการออกหนังสือเพื่อแจ้งไปยังหน่วยบริการต่างๆ แล้ว ในการซักซ้อมและทำความเข้าใจแนวทางการดำเนินการในกรณีที่ผู้มีรายชื่อในทะเบียนบ้านกลางเข้ามารับบริการ ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564 ซึ่งเมื่อมีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาอภิปราย จึงเป็นโอกาสอันดีที่ สปสช. จะได้อธิบายแนวทางการใช้สิทธิบัตรทองฯ ของคนกลุ่มนี้อีกครั้ง เพื่อย้ำให้สังคมและหน่วยบริการรับทราบ เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
สำหรับแนวทางการใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้ที่มีชื่ออยู่ทะเบียนบ้างกลางนั้น แบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังนี้
1.กรณีไม่เคยทำบัตรประจำตัวประชาชนและไม่มีเอกสารอื่นใดและอายุเกิน 15 ปีแล้ว เช่น บุคคลที่มีรายชื่อในทะเบียนบ้านกลาง ให้แสดงใบคัดสำเนารายการทะเบียนราษฎรจากฐานข้อมูลการทะเบียน สำนักทะเบียนกลาง หรือ ท.ร. 14/1 โดยสามารถขอคัดสำเนาได้จากสำนักทะเบียนราษฎรทุกแห่งทั่วประเทศด้วยตนเอง
2.กรณีเคยทำบัตรประจำตัวประชาชน แต่ปัจจุบันบัตรหายและไม่มีพยานหลักฐานอื่นใด หรือบุคคลที่อยู่ในทะเบียนบ้านกลางและบัตรประชาชนสูญหาย ให้แสดงใบคัดสำเนาทะเบียนประวัติบุคคล หรือ ท.ร.12 โดยสามารถขอคัดสำเนาได้จากสำนักทะเบียนราษฎรทุกแห่งทั่วประเทศด้วยตนเอง
และ 3.กรณีทราบเพียงหมายเลขประจำตัวประชาชน แต่ไม่มีบัตรประชาชน หรือบัตรเอกสารอื่นใดที่ราชการออกให้ และไม่สามารถคัดสำเนาตาม 2 กรณีข้างต้นได้ และมีเหตุจำเป็นต้องเข้ารับบริการ ขอให้หน่วยบริการให้บริการในครั้งนั้น โดยถือเป็นเหตุอันสมควรหรือฉุกเฉิน และหากบุคคลนั้นประสงค์จะลงทะเบียน ณ หน่วยบริการที่ขอรับบริการ ขอให้หน่วยบริการจัดให้ลงทะเบียนด้วยหมายเลข 13 หลักของบุคคลนั้น คู่กับบัตรประจำตัวประชาชนของพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือ
ทั้งนี้ โดยหลักการแล้ว การใช้สำเนา ท.ร.14/1 หรือ ท.ร.12 สามารถใช้ยืนยันตัวตนเพื่อรับบริการได้ในครั้งแรก หลังจากนั้นให้บุคคลนั้นดำเนินการขอทำบัตรประชาชน เพื่อใช้ในการรับบริการครั้งต่อไป อย่างไรก็ดี เนื่องจากขั้นตอนการทำบัตรประชาชนต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ในกรณีที่คนไข้ต้องมีการรับบริการต่อเนื่อง สปสช. อนุโลมให้สามารถรับบริการได้เช่นกัน
รศ.ภญ.ดร.ยุพดี กล่าวอีกว่า นอกจาก สปสช. ที่ส่งหนังสือเวียนซักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยบริการต่างๆ แล้ว ในส่วนของสำนักทะเบียนกลางได้ส่งหนังเวียน เลขที่ ว.180 ไปยังนายทะเบียนจังหวัดทุกจังหวัดตั้งแต่ปี 2564 เพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติในกรณีที่มีการขอคัดรายการทะเบียนราษฎรของบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางอีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
- ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
- Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand