พม. จับมือ สสส. และภาคีเครือข่าย ชูแคมเปญ “สงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ”

10 เมษายน 2568, 16:49น.


      พม. จับมือ สสส. และภาคีเครือข่าย ชูแคมเปญ “สงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ” ข้อมูลน่าวิตก จ้องฉวยโอกาส พบถูกแต๊ะอั๋ง/ลวนลาม 32.43% เด็กต่ำกว่า 18 ปี ถูกประแป้ง 76.77% คนพิการก็ไม่เว้น หวั่นเป็นเทศกาลแห่งความรุนแรง คุกคามทางเพศ อุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท หนุนจัดพื้นที่ปลอดเหล้า ทุกจุดทำกิจกรรมเล่นน้ำ ต้องมีจุดรับแจ้งเหตุช่วยเหลือ มีแผนเผชิญเหตุ

      เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 เม.ย. 2568 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์สงกรานต์ ประจำปี 2568 “สงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ” พร้อมทำกิจกรรมขบวนแห่กลองยาวเชิญชวนร่วมงาน “สงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ” และแจกสื่อรณรงค์



      นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัด พม. กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ของไทยได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยจากก่อเจดีย์ทราย เข้าวัดทำบุญ สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ และเล่นพรมน้ำประแป้ง มาเป็นการสังสรรค์กินดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนท้องถนน ทะเลาะวิวาท คุกคามทางเพศ ซึ่งแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2567 กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ร่วมกับเครือข่าย สำรวจความเห็นประชาชนต่อเทศกาลสงกรานต์ 4,011 คน พบเคยถูกประแป้งที่ใบหน้า 57.79% มีเด็กอายุต่ำว่า 18  ปีถูกประแป้งที่หน้า 76.77% ส่วนถูกแต๊ะอั๋ง/ลวนลาม 32.43% ถ้าแยกเฉพาะผู้พิการพบว่าถูกประแป้ง 56.79% ถูกแต๊ะอั๋ง/ลวนลาม 50.62% เช่น จับมือ/แขน/เบียดเสียด 61.45% ลูบไล้ร่างกาย 37.19% จับแก้ม 34.47% มองแทะโลมทำให้อึดอัด ไม่ปลอดภัย 22.45% ถูกแซว/ล้อเลียนส่อไปในเรื่องเพศ 21.54% และถูกสัมผัส/ล้วงอวัยวะอื่น ๆ 16.55%



      “ผลสำรวจสะท้อนว่า ท่ามกลางประเพณีอันดีงามยังมีหลายคนกำลังเผชิญกับความรุนแรง ถูกคุกคามทางเพศ ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้น ร่วมกับโครงสร้างทางวัฒนธรรม สังคมที่มีแนวโน้มว่าการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องปกติ ไม่มีโทษรุนแรง ขอความช่วยเหลือได้ยาก เกิดการฝังรากลึกในวิธีคิด สนับสนุนให้วัฒนธรรมการคุกคามทางเพศในช่วงเทศกาลมีมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องสร้างกระแสให้สังคมเข้าใจเรื่องการให้เกียรติ เคารพในสิทธิเนื้อตัวร่างกาย ไม่ฉวยโอกาสลวนลาม หรือคุกคามทางเพศ และไม่ใช้ความรุนแรง ผู้ถูกกระทำสามารถขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง หน่วยงานในพื้นที่ เช่น ตำรวจ หรือสายด่วน 191 สายด่วน 1300 และ Line Chatbot @esshelpme เพื่อหยุดพฤติกรรมการกระทำผิด และไม่ให้ไปกระทำซ้ำกับผู้อื่น” ปลัด พม. กล่าว



      นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ สสส. ยังคงร่วมกับภาคีเครือข่ายฯ รณรงค์สนับสนุนให้จัดกิจกรรมเล่นน้ำอย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปัจจุบันมีพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยกว่า 100 พื้นที่ มีถนนตระกูลข้าว (ปลอดเหล้า) 60 แห่ง รวมถึงได้สื่อสารรณรงค์ผ่านภาพยนตร์โฆษณารณรงค์ช่วงเทศกาลสงกรานต์แคมเปญ "ดื่มแล้วขับ นับเป็นฆาตกร" เพื่อให้หยุดพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ "เมาแล้วขับ" ก่อนที่จะต้องมีคน "ร้องขอชีวิต" ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจพฤติกรรมการดื่มสุราของคนไทย ปี 2564 แม้มีแนวโน้มลดลงเหลือ 28% แต่ยังมีเยาวชนเป็นนักดื่มมากถึง 1.9 ล้านคน การดื่มแล้วขับมีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุบนถนน



      “ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปรียบเทียบปี 2566-2567 พบการเกิดอุบัติเหตุ 2,044 ครั้ง ลดลง 159 ครั้ง คิดเป็น 7.22% ผู้บาดเจ็บ 2,060 คน ลดลง 148 คน คิดเป็น 6.70% ผู้เสียชีวิต 287 คน เพิ่มขึ้น 23 คน หรือ 8.71% นี่คือเหตุผลที่ สสส. ต้องร่วมกับภาคีเครือข่ายรณรงค์อย่างหนัก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสงกรานต์ปีนี้ จะเป็นสงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ สร้างค่านิยมที่ดีของสังคมเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ตามวิถีไทยดีงามให้คงอยู่ต่อไป” นางก่องกาญจน์ กล่าว



      นางสาวอังคณา อินทสา มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า มูลนิธิฯ และเครือข่าย มีข้อเสนอในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่สร้างสรรค์ ปลอดภัยสำหรับทุกคน 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต้องบังคับใช้กฎหมายอาญาเรื่องการลวนลามทางเพศ และพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้น เช่น ไม่ขายเกินเวลา ไม่ขายให้คนอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ขายให้คนเมา ไม่ขายในที่ห้ามขาย 2.ผู้จัดงานต้องประชาสัมพันธ์กฎหมายเกี่ยวกับการลวนลามทางเพศ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแนวทางปฏิบัติเมื่อมีการทำผิด 3.ผู้พบเห็นต้องไม่นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ และช่วยกันหยุดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ต้องมีจุดรับแจ้งเหตุให้ความช่วยเหลือ มีแผนเผชิญเหตุให้ชัดเจน 4.ครอบครัว สถาบันการศึกษา ควรปลูกฝังเรื่องทัศนคติการเคารพเนื้อตัวร่างกายของผู้อื่น



      ด้าน นายนำโชค กระจ่างศรี อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก  กล่าวว่า ในช่วงวัยรุ่นตนและเพื่อนรอคอยเทศกาลสงกรานต์เพราะจะได้ปลดปล่อย ทำอะไรก็ได้ ทั้งกิน ดื่ม เที่ยว และในใจยังคิดจะฉวยโอกาส ดังนั้นสงกรานต์จึงกลายเป็นเทศกาลที่ไปหาเหยื่อ เก็บแต้ม เริ่มตั้งแต่ประแป้ง ถึงเนื้อถึงตัว ไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งจะมาปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดและพฤติกรรมในเรื่องการเคารพสิทธิผู้อื่น การให้เกียรติผู้หญิงและทุกเพศสภาพ เพราะถูกขัดเกลาจากบ้านกาญจนาภิเษก ทำให้ซึมซับเรื่องความเท่าเทียมกัน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การเคารพในสิทธิเนื้อตัวร่างกาย เห็นคุณค่าในตัวเอง ส่งผลกับชีวิตคู่และครอบครัวของตนอย่างมาก ทุกวันนี้ตนและภรรยา มีลูก มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่เคยใช้ความรุนแรง หากมีโอกาสก็จะไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับสังคมเสมอ สงกรานต์นี้อยากจะบอกเพื่อนๆ น้องๆ ว่าเหล้า เลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะ สนุกแบบมีสติดีกว่า และควรเคารพให้เกียรติผู้อื่น มีเวลาทำกิจกรรมดีๆ คืนความสุขให้คนที่เรารัก ให้ครอบครัว







 

X