2 จุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

15 กันยายน 2559, 19:12น.


                ภาคีเครือข่ายการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ลงพื้นที่สำรวจ 2 จุดเสี่ยง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจำนวนมาก จนได้รับการเรียกจากชาวบ้านว่าเป็น “โค้งอันตราย”





                “จุดที่ 1” บนทางหลวงหมายเลข 118 (เส้นทางระหว่างจ.เชียงใหม่ – จ.เชียงราย) ช่วง ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นถนน 2ช่องทาง(สวนทางกัน) มีทางโค้ง ขึ้น-ลง สลับไปมาตามแนวเขา มี 5จุดเกิดเหตุบ่อยคือ ช่วงกม. 22 , กม.36 , กม.43 , กม.51 , และสามแยกเข้าจ.เชียงราย ซึ่งระหว่างวันที่ 1-7 กันยายน 2559 (เพียง 7วัน) มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วถึง 5ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 2คน ผู้บาดเจ็บอีก 1คน และในวันที่ทีมข่าวลงสำรวจพื้นที่ คือวันที่ 8 กันยายน 2559 ระหว่างการเดินทาง ก็พบรถประสบอุบัติเหตุในเส้นทางดังกล่าวตกข้างทางอีก 1คัน จากการสอบถามผู้ขับขี่เบื้องต้น ให้การว่าตนขับรถมาจาก จ.เชียงใหม่ กำลังมุ่งหน้าไป จ.เชียงราย โดยใช้เส้นทาง ทล.118 โดยก่อนเกิดเหตุมีฝนตก ถนนลื่น ขับมาด้วยความเร็วประมาณ 60-70 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อเข้าโค้งลงเขาต่อเนื่อง ก็ไม่สามารถเบรกรถให้หยุดได้ จึงทำให้รถหลุดทางโค้ง ตกลงข้างทาง ส่วนตนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มีเพียงรถที่เสียหายเล็กน้อยเท่านั้น









                นักวิชาการ เผยถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในเส้นทางดังกล่าวว่า ถนนที่มีความโค้ง และความชันอย่างต่อเนื่อง มีผลต่อผู้ขับขี่ที่ไม่ชินเส้นทาง เพราะการใช้เบรกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เบรกลมหมด หรือเบรกไหม้ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังเช่นเหตุที่ทีมข่าวได้พบขณะลงพื้นที่นั่นเอง รวมทั้งข้างทางที่ประกอบด้วยต้นไม้ หินก้อนใหญ่(ที่เกิดตามธรรมชาติ) และเหวลึก ที่ส่งผลให้อุบัติเหตุทวีความรุนแรงเพิ่มมากยิ่งขึ้น 











                “จุดที่ 2” บนทางหลวงหมายเลข 107 ช่วงกิโลเมตรที่ 18+400 โค้งเหมืองผ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ บริเวณดังกล่าวเป็นถนนฝั่งละ 2ช่องทาง (รวม 2ฝั่ง 4ช่องทาง) เป็นทางโค้งรูปตัว S (เอส) และมีทางเชื่อม เข้า-ออกชุมชน หมู่บ้านจัดสรร ทำให้ลักษณะการเกิดอุบัติเหตุในหลายๆครั้งนั้น จะเป็นรถที่ออกมาจากซอยชุมชน ตัดหน้ารถกระแสทางตรง ที่มาด้วยความเร็ว ทำให้ไม่ทันเห็นรถที่มุ่งหน้าออกมาจากซอย จนเกิดเหตุรุนแรงหลายครั้ง บ้านที่ตั้งอยู่ช่วงทางแยกต้องสร้างรั้วบ้านถึง 2ชั้น เพราะเคยมีอุบัติเหตุรถชนเสียหลักพุ่งชนรั้วบ้านพังเสียหาย





                โดยอุบัติเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุด คือเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2559 เกิดอุบัติเหตุรถชนประสานงาหมู่ 4คัน! ประกอบด้วย รถตู้รับ-ส่งนักเรียน รถทัวร์โดยสารนักท่องเที่ยว รถเก๋ง และรถจักรยานยายนต์ จากผลการสอบสวนเบื้องต้นคือ รถทัวร์รับนักท่องเที่ยวจากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้า อ.แม่แตง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้เฉี่ยวชนกับรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ที่ขับออกมาจากหมู่บ้านเหมืองผ่า อย่างรุนแรง ทำให้รถทัวร์เสียหลักข้ามช่องทางพุ่งไปชนกับรถเก๋งที่วิ่งสวนมา จนทำให้รถพุ่งเข้าไปชนรั้วบ้านประชาชนริมถนนพังเสียหาย และรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ตามมาเบรกไม่ทัน ชนอัดซ้ำไปที่ท้ายรถทัวร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1คน และผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องรีบให้การช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลท่ามกลางความโกลาหล เสียงเด็กนักเรียน และนักท่องเที่ยวที่ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือระงม!





                นักวิชาการแนะวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น คือ การสร้างสิ่งที่สามารถเตือนผู้ขับขี่ ว่าจุดดังกล่าวคือจุดเสี่ยงให้ระมัดระวัง การเพิ่มความชัดเจนด้านเส้นจราจร สี เพิ่มไฟกระพริบเตือน รวมทั้งการสร้างจุดกลับรถที่เหมาะสม ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว คือ กั้นแบริเออร์เกาะกลางถนน ไม่ให้รถเลี้ยวตัดเข้าซอยได้ การเปลี่ยนทางเข้า-ออก และวิธีทำให้รถชะลอความเร็วเมื่อผ่านจุดดังกล่าว





                ท้ายที่สุดนักวิชาการระบุว่า สิ่งที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้คือ “ผู้ขับขี่ต้องเชื่อป้ายเตือน และป้ายจราจร อย่างเคร่งครัด! หากป้ายเตือนให้ใช้เกียร์ต่ำ ก็ควรต้องใช้เกียร์ต่ำ หากจุดไหนมีป้ายเตือนว่าเป็นจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น แต่ที่สำคัญคือต้องมีวินัยทุกครั้งขณะขับขี่ ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนก็ตาม...







ขอขอบคุณข้อมูลโดย

1. รองศาสตร์จารย์ ลำดวน  ศรีศักดา   คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้เชี่ยวชาญด้านถนนภาคเหนือตอนบน

2. สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 

ผู้สื่อข่าว : วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์

X