เทคนิคการเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์

10 เมษายน 2560, 17:29น.


          การขับขี่รถยนต์บนท้องถนนนั้นอาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งกับตัวเราและเพื่อนร่วมทาง แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครห้ามได้เช่นกัน การมีกล้องติดรถยนต์ไว้บันทึกภาพทุกการเดินทางของเราเป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะช่วยเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ว่าใครถูกใครผิด ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราก็ได้เริ่มรู้จักกับกล้องติดรถยนต์ ช่วงแรก ๆ หลายคนก็ว่าเป็นของสิ้นเปลือง แต่ในที่สุดกล้องติดรถยนต์ก็พิสูจน์หลายกรณีแล้วว่าสำคัญแค่ไหน ถ้าหากกล้องติดรถยนต์เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ เราก็ควรจะเลือกกล้องที่มีคุณภาพ ใช้งานได้จริงแบบไม่มีปัญหา ก็คงต้องเลือกกันมากซักหน่อย ยิ่งในปัจจุบันกล้องติดรถยนต์มีจำหน่ายกันอยู่หลายเกรด หลายระดับราคา แต่ควรต้องพิจารณาจากอะไรบ้างวันนี้เรานำเคล็ดลับมาบอกกันค่ะ





1. ความคมชัดของกล้อง

          อย่างแรกมาดูเรื่องความคมชัดของวิดีโอจากกล้อง ไฟล์ที่บันทึกมามีคุณภาพระดับไหน ที่เราขอแนะนำคือ Full HD 1080p ถือว่าเพียงพอเหมาะสมที่สุด หากเป็น 4K ราคาอาจสูงเกินความจำเป็น ส่วน VGA และ HD 720p อาจได้ภาพที่ให้รายละเอียดไม่เพียงพอ อีกสิ่งที่อยากแนะนำให้ดูคือค่า FPS (Frame Per Second) ที่ตัวกล้องอัดได้ ปกติแล้วจะอยู่ที่ 20-30 FPS ถือว่าพอใช้ได้ แต่ถ้าได้มากกว่า 30 FPS ระดับภาพจะชัดและไม่กระตุก





2. การบันทึกช่วงกลางคืนหรือในที่แสงน้อย

          เป็นส่วนสำคัญอันดับต้นๆในการวัดคุณภาพของกล้อง ฟีเจอร์ที่สำคัญคือ WDR (Wide Dynamic  Range) คือ การที่กล้องบันทึกวีดีโอซ้อนกัน แบบแรกบันทึกในสภาวะปกติ แบบที่สองสว่างกว่าปกติ แล้วนำภาพที่ได้มาซ้อนกันเพื่อแสดงภาพที่ดีที่สุด

          นอกจากนี้ รูรับแสงของกล้องก็มีความสำคัญ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ F2.2 ถ้าต่ำกว่านี้ก็ยิ่งดีแต่ราคาก็จะสูงขึ้นตาม เพราะถ่ายเวลาแสงน้อยได้ชัดขึ้น ส่วนการบันทึกพร้อมระบบอินฟราเรดก็อาจช่วยได้บ้างแต่ไม่ถึงกับเป็นส่วนสำคัญ





3.  มุมมองกล้อง

          กล้องติดรถยนต์ควรได้มุมมองที่กว้างเพื่อเห็นบริเวณหน้ารถให้มากที่สุด หรืออย่างน้อยเมื่อติดตั้งที่กระจกหน้ารถควรเห็นมุมรถครอบคลุมด้านหน้าทั้งซ้ายและขวา ควรเลือกเลนส์ Fish Eye หรือเลนส์ Wide 150-170 องศา





4. ความจุของเมมโมรี่การ์ด (SD Card)

          ยิ่งเลือกความคมชัดของภาพสูงๆ ขนาดไฟล์ที่ต้องจัดเก็บในเมมโมรี่การ์ดก็ต้องใหญ่ตาม ควรเลือกกล้องที่รองรับเมมโมรี่การ์ดได้ 64GB จะทำให้เก็บไฟล์ได้ต่อเนื่องนานหลายวัน ส่วนตามท้องตลาดมักรองรับที่ 32GB เพราะประหยัดต้นทุน ที่สำคัญควรเลือกกล้องที่มีฟีเจอร์ Loop Recording หรือการ“อัดทับ” คือ การเลือกบันทึกวีดีโอความยาว 3-10 นาที และเริ่มบันทึกวีดีโอใหม่ไปเรื่อยๆ หากเมมโมรี่การ์ดเต็มความจุ ก็จะวนกลับไปบันทึกทับวีดีโอเก่าโดยอัตโนมัติ ทำให้เมมโมรี่การ์ดไม่เต็ม เพราะวีดีโอเก่าจะถูกลบไปเรื่อยๆนั่นเอง





5. ฟังก์ชั่นของกล้องอื่นๆที่ควรรู้



          5.1 บันทึกเสียงในห้องโดยสารได้ชัด



          5.2 ระบบป้องกันการสั่น



          5.3 การโฟกัสในความมืด



          5.4 อินฟราเรดในตอนกลางคืน



          5.5 ระบบลดเงาแสงสะท้อน



          5.6 ระบบGPS ช่วยในการระบุตำแหน่ง และดูความเร็วในการขับขี่





6. รับประกันหลังการขาย

          กล้องราคาถูกหรือร้านค้าในอินเทอร์เน็ตมักจะไม่มีประกัน หรือไม่มีที่ตั้งของบริษัทเป็นหลักแหล่งสะดวกต่อผู้ซื้อ หากคุณจะเลือกซื้อทั้งที ขอให้เลือกที่ดีมีคุณภาพและรับประกันดี ๆ จ่ายราคาแพงกว่าหน่อย ดีกว่าซื้อของถูก ใช้ไม่กี่เดือนเสียก็ต้องทิ้งทันที กล้องติดรถยนต์ทุกตัว มีจุดอ่อนอยู่ที่การรับแสงแดดเต็มๆเป็นเวลานาน การติดตั้งกล้องไว้ที่หน้ากระจกรถโดยไม่ถอดเก็บเลยเมื่อจอดรถกลางแจ้ง จะทำให้ชิปเซ็ตภายในเสียหาย หรืออาจทำให้ระบบบันทึกลงเมมโมรี่การ์ดขัดข้อง ทำให้กล้องค้าง ไม่สามารถใช้งานได้





7.  เลือกราคาที่เหมาะสม

          กล้องติดรถมีหลายรุ่น ตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อยไปจนถึงหลายหมื่นบาท จึงควรเลือกตามคุณสมบัติที่เหมาะสม รุ่นที่มีฟังก์ชั่นมากราคาก็จะสูงตาม แต่ถ้าเลือกที่ราคาถูก ก็อาจทำให้คุณภาพกล้องด้อยลง โดยคำแนะนำคิดว่า ราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพควรจะอยู่ในช่วง 1,500 – 4,000 บาท หากราคาถูกกว่านี้ก็คงต้อง“ตาดีได้ตาร้ายเสีย” แต่ถ้ามีกำลังซื้อในระดับเกิน 10,000 บาทขึ้นไป ก็มักจะได้กล้องที่คุณภาพสูงตามราคา



8. คำถามที่พบบ่อย

8.1 เมมโมรีการ์ดไม่รองรับ อาจเป็นเพราะความเร็วในบันทึกวีดีโอลงเมมโมรีการ์ดไม่เพียงพอ วีธีซื้อเมมโมรีการ์ดให้เลือกที่เขียนว่า Class 10 จึงจะเหมาะกับการบันทึกวีดีโอระดับ FULL HD 

8.2 แบตเตอรี่เสื่อม ชาร์จไฟไม่เข้า วิธีแก้ควรถอดที่ชาร์จออกทุกครั้งที่จอดรถ ไม่ควรต่อชาร์จทิ้งไว้ และหลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง 

8.3 กล้องติดรถยนต์ ไม่ใช่ Action Camera ไม่ควรนำมาใช้งานทดแทนกัน เพราะต่างมีฟังก์ชันการทำงานที่ต่างกัน



         ทั้งนี้ก่อนเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ทุกครั้ง แนะนำให้ขอดูคลิปวีดีโอที่บันทึกไว้เป็นตัวอย่างก่อน ทั้งแบบบันทึกตอนกลางวัน กลางคืน และแบบย้อนแสง ดูรายละเอียดของวีดีโอให้ครบถ้วน โดยเฉพาะทะเบียนรถคันหน้าและคันใกล้เคียง ความเคลื่อนไหวของภาพระหว่างรถวิ่ง อาจลองกดหยุดและดูว่าเฟรมภาพที่ต้องการชัดหรือไม่ ที่สำคัญบางครั้งต้องระวังคลิปวีดีโอที่ผู้ขายให้ดูอาจไม่ใช่รุ่นที่วางขาย จึงควรขอดูการบันทึกขณะนั้น หรือดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริงประกอบการตัดสินใจด้วย



สนใจกล้องติดรถยนต์คุณภาพคุ้มราคาจาก Dtech คลิ๊กเลย!!



เรียบเรียงโดย : ภคมน แสงวิสุทธิ์สิงห์ 

X