เริ่มแล้วสำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่38 (Motorshow 2017) ที่จัดขึ้นนะหว่างวันที่ 29 มีนาคม - 9 เมษายน 2560 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี ปีนี้มีรถเปิดตัวใหม่ในงาน 10 รุ่น JS100 จะพาไปชมสักเล็กน้อนก่อนที่คุณจะไปงาน จะได้เดินกันอย่างมีจุดมุ่งหมายครับ
1. All-new BMW 5 Series 2017
ขอยกให้เป็นรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำมากที่สุด เนื่องจาก BMW 5 Series 2017 โฉมใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 7 รหัสตัวถัง G30 ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากตั้งแต่เปิดตัวในต่างประเทศ แม้ดีไซน์จะดูไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่จากการออกแบบใหม่ทั้งหมดจึงมีรายละเอียดที่สวยงามกว่าเดิม เช่น ลายร่องแนวขอบประตูที่ทำให้รู้สึกเหมือนรถขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา ,ไฟหน้า LED แบบ Adaptive ปรับตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัย และมีระบบกระจายแสงสว่างให้เหมาะกับสภาพเส้นทางที่ขับผ่านโดยอัตโนมัติ
.jpg)
ภายในมีความสวยงามที่มาพร้อมกับความหรูหรา จอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วตรงกลางคอยโซล รองรับการสั่งงานด้วยมือผ่านเซ็นเซอร์โดยไม่ต้องสัมผัส(Gesture Control) และมีระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย(Wiress Charginig)
- BMW 5 Series 2017 ที่จำหน่ายในประเทศไทย เป็นแบบนำเข้า (CBU) มีให้เลือก 2 รุ่น
- BMW 520d Luxury เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ TwinPower Turbo 2.0 ลิตร 190 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ 7.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. และมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20 กม./ลิตร จำหน่ายราคา 3,899,000 บาท
- BMW 530i M Sport เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo 2.0 ลิตร 252 แรงม้าอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ 6.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.5 กม./ลิตร จำหน่ายราคา 4,399,000 บาท
หากที่ผ่านมาคุณคิดว่า "Series 5 คือรุ่นพี่ของ Series 3" คงต้องปรับความคิดใหม่ เพราะรุ่นใหม่นี้ "BMW 5 Series 2017 คือรุ่นน้องของ Series 7" อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกุญแจที่สามารถบอกสถานะของรถได้เช่นกัน รถรุ่นนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการขับรถสมรรถสูงในแบบ Series 5 ที่มาพร้อมกับความหรูหราในแบบ Series 7 ครับ

2. Mercedes-Benz E300 Coupe AMG Dynamic
คู่ปรับรถยุโรปบูธตรงข้ามที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน E-Class Coupe 2017 ออกแบบให้ทั้งใหญ่และยาวมากขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารโดยเฉพาะเบาะหลัง แต่ยังคงความสปอร์ตด้วยกระจกแบบไร้ขอบทั้ง 4 บาน
ภายในออกแบบเน้นความหรูหราสไตล์ Mercedes-Benz ภายในห้องโดยสารปรับเปลี่ยนสีได้ 64 สี หน้าจอเป็นแบบความละเอียดสูง 12.3" พวงมาลัยใช้แผงควบคุมระบบสัมผัส (Touch Control Button) มีเทคโนโลยี DYNAMIC SELECT เลือกโหมดการขับขี่ได้ 5 แบบ คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual และมีระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinTurbo 2.0 ลิตร 245 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ราคาจำหน่าย 4,540,000 บาท
3. Honda Civic Hatchback 2017
ตลาดรถขนาดกลางที่น่าสนใจต้องยกให้ Honda Civic Hatchback 2017 เป็นซีวิคเจเนอเรชั่นที่ 10 ที่มีจุดเด่นรุ่น 5 ประตู ซึ่งค่ายฮอนด้าไม่ทำรถที่มีประตูด้านหลังมานานนับตั้งแต่ Civic 3-doors ปี1995 ,รุ่นใหม่ล่าสุดนี้รูปลักษณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว กระจังหน้าสีดำ กันชนหน้าหลังลายรังผึ้งขนาดใหญ่ ไฟท้ายสไตล์แฮทช์แบ็ค LED ทรง C-Shaped รับกับแนวสปอยเลอร์
ภายในยังคงให้อารมย์ฮอนด้า เรือนไมล์เป็นแบบดิจิทัล มีกล้องมองหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ, สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) จุดเด่นเน้นพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังกว้างขวาง สามารถปรับพนักพิงเบาะหลังได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ความจุได้มากขึ้น แถมเลือกดึงม่านปิดสัมภาระเพื่อป้องกันไม่ให้มองเห็นจากด้านนอกได้
Honda Civic Hatchback 2017 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 173 แรงม้า ซึ่งฮอนด้าบอกว่าให้กำลังเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร
ใหม่ สนนราคาที่ 1,169,000 บาท
.jpg)
4. Honda CR-V 2017 Diesel
เครื่องดีเซลของฮอนด้า ถือว่า มาช้าไปหน่อยในยุคที่ราคาน้ำมันถูกลง Honda CR-V 2017 เจเนอเรชั่นที่ 5 ขยายตัวถังให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ซึ่งสามารถติดตั้งเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่งในทุกรุ่นย่อยได้
ภายในตกแต่งแผงคอนโซลหน้าด้วยเส้นลายไม้และวัสดุสี Piano Black หน้าจอสัมผัสขนาด 7" รองรับ Apple CarPlay และมีมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ที่น่าสนใจคือไม่มีกระปุกเกียร์หรือคันโยกตรงกลางรถและที่พวงมาลัย แต่ติดตั้งเป็นแบบปุ่มกดใต้แผงแอรื เลือกกด P, N, D, และดึงสลัก R เมื่อต้องการถอยหลัง มีระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ผ่านการควบคุมพวงมาลัย แจ้งเตือนผ่านการสั่นเตือนที่พวงมาลัยและหน้าจอ ส่วนฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบปุ่มกดไฟฟ้าระบบแฮนด์ฟรี พร้อมควบคุมด้วยรีโมทและปรับระดับความสูงได้
เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล i-DTEC 4 สูบ 1.6 ลิตร 160 แรงม้า อัตราสิ้นเปลือง 18.9 กม./ลิตร เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ด้วยระบบ Agile Handling Assist ทำหน้าที่ชะลอความเร็วล้อข้างที่เหมาะสมเพื่อช่วยในการเข้าโค้ง ราคารุ่นท็อป DT EL 4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,699,000 บาท และรุ่นรองท็อป DT E ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1,549,000 บาท