ช้าก่อน! "เลอะแป้งสงกรานต์" อย่าเพิ่งล้าง อ่านตรงนี้ก่อน!!

          สำหรับบรรยากาศวันสงกรานต์อาจจะผ่านไปแล้ว และสำหรับคนรักรถ มันก็ถึงเวลาที่คุณควรจะดูแลรถยนต์หลังจากใช้งาน เพื่อให้รถยนต์นั้นพร้อมใช้งานได้เหมือนเดิมกันค่ะ วันนี้เราเลยมีข้อแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการทำความสะอาดรถหลังเทศกาลสงกรานต์ มาฝากกันคงจะไม่แปลกถ้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ รถของคุณอาจจะขาวโพลนด้วยแป้ง และด้วยเหตุนี้สถานบริการคาร์แคร์ต่างๆคงจะแน่นเอี๊ยด ดังนั้นเราสามารถประหยัดทั้งเงินและเวลาด้วยการล้างรถเองที่บ้านด้วยเคล็ดลับดีๆกันค่ะ



          ส่วนแรก ขอแนะนำว่าควรจะล้างทำความสะอาดตัวรถยนต์จากคราบน้ำ คราบแป้งหรือแม้แต่สีที่นำมาเล่นสงกรานต์กันออกไปก่อนโดยเร็วที่สุดเพราะเราไม่ทราบว่าแป้งหรือสีบางชนิดที่นำมาเล่นกันแน่นอนว่าหากทิ้งไว้นานคราบแป้งหรือคราบสีเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เนื้อสีรถของท่านส่งผลให้สีรถอาจเป็นคราบด่างและดวงได้และแน่นอนว่าเราควรจะล้างทำความสะอาดด้วยตัวเองด้วยเพื่อที่จะได้เช็คสภาพรถของเราว่าช่วงสงกรานต์นี้มีบาดแผลอะไรมาบ้างเพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขต่อไปเพราะในสภาพถนนที่มีการเล่นสงกรานต์กัน มีผู้คนพลุกพล่าน ก็มีโอกาสที่ตัวรถของเราจะโดนขอบขันกระบอกปืนฉีดน้ำ เล็บ หรืออุปกรณ์ต่างๆที่นำไปเล่นสงกรานต์กันก็ได้ ตามขั้นตอนดังนี้



               1. ควรล้างคราบแป้ง ขี้นก แมลงและยางไม้ออกโดยเร็วที่สุด เพราะแป้งที่แห้งและโดนแสงแดดนานๆ จะเกาะสีรถและทำให้ลอกได้ เมื่อกลับถึงบ้านต้องล้างฝุ่นละอองและคราบแป้งที่เกาะรถออกด้วยการฉีดน้ำสะอาดทั่วทั้งคัน



               2. ใช้น้ำยาสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ เพราะน้ำยาประเภทอื่นอาจจะทำให้ แว็กซ์เคลือบจางลงและเกิดรอยด่างแก่สีได้ หลังจากนั้น เช็ดแห้งด้วยหนังชามัวร์ ซึ่งสามารถซับน้ำได้ดี และไม่ทำให้รถเป็นรอย



               3. ทำความสะอาดเบาะหนังด้วยการใช้ผ้าหมาดๆ ค่อยๆเช็ด ตามด้วยผ้าแห้ง หรืออาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ



ส่วนเบาะผ้า ดูดฝุ่นบริเวณเบาะก่อน แล้วจึงทำความสะอาดจุดที่เลอะด้วยน้ำยาทำความสะอาดโดยเฉพาะ แนะนำให้ใช้ในบริเวณที่มองไม่เห็น เป็นจุดเล็กๆก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีผลต่อผ้าเบาะ



               4. เลือกแปรงขัดล้อรถให้ถูกต้อง หรือใช้ฟองน้ำขัดทำความสะอาด หลีกเลี่ยงการใช้แปรงลวดในการขัดล้ออัลลอย เพราะอาจทำลายผิวเคลือบบนล้อได้



               5. ไม่ควรฉีดน้ำแรงสูงเมื่อทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์ เพราะแรงดันที่สูงอาจทำให้น้ำซึมเข้าไปในอุปกรณ์ไฟฟ้า คอย์ล หัวเทียน หรือกล่องควบคุมโดยตรงได้ ควรห่อหุ้มหรือหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำบริเวณดังกล่าว



               6. ทำความสะอาดแผงหน้าปัดภายในด้วยการใช้ผ้าเปียกชื้นเล็กน้อยเช็ด แล้วตามด้วยผ้าแห้ง

               7. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่ทำให้เกิดความเงาบริเวณบนคอนโซลเพราะจะเพิ่มการสะท้อนของกระจกหน้า



               8. ควรซ่อมสีโดยเร็วกรณีที่สีกระเทาะหรือเฉี่ยวชน เพื่อป้องกันตัวถังเป็นสนิม

               9. ไม่ควรล้างรถในขณะที่ฝากระโปรงยังร้อนอยูหรือจอดอยู่กลางแดดพราะจะทำให้เกิดคราบน้ำ

           ส่วนที่สอง เป็นจุดที่ต้องระวังเลยก็คือความชื้นในตัวรถ บางทีการนำรถยนต์ออกไปใช้งานในช่วงสงกรานต์อาจมีจังหวะที่เราเปิดกระจกรถ หรือเปิดประตูออกมาแล้วโดนน้ำฉีดเข้าไปในห้องโดยสารหรืออีกกรณีก็คือเราลงจากรถไปซึ่งก็แน่นอนว่าอาจจะเปียกชื้นจากสภาวะสงกรานต์จากนั้นมานั่งในรถก็อาจจะทำให้มีความชื้นได้ ดังนั้นจึงอยากให้หาเวลานำรถไปจอดตากแดดสักหน่อยโดยให้เปิดกระจกเอาไว้เพื่อไล่ความชิ้นออกไป รื้อพรมปูพื้นออกนำไปผึ่งแดดให้แห้งด้วยตรวจเช็คทำความสะอาดคราบน้ำหรือกรวดทรายในรถออกไปด้วย

          ส่วนที่สาม นั้นก็คือส่วนที่ละเอียดอ่อนและสำคัญที่สุดเพราะมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยของเจ้าของรถนั่นก็คือเรื่องของอุปกรณ์และเครื่องยนต์นั่นเอง อาจจะต้องใช้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการดูแลรถยนต์สักหน่อยแต่คิดว่าคงไม่มีปัญหาสำหรับเจ้าของรถหลายๆท่าน หลังจากที่ได้เดินทางไกลกันมาเราควรตรวจเช็คและสังเกตอาการผิดปกติของรถด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเหม็นไหม้เกจความร้อน ระบบเกียร์ และอื่นๆที่สามารถทำได้ แต่ถ้ารถใครใหม่ก็ไม่น่าเป็นห่วงสักเท่าไร แต่สำหรับรถที่ค่อนข้างจะมีอายุการใช้งานนานสักหน่อยก็ตรวจเช็คกันให้ดีเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนด้วยนะคะ

          แม้การดูแลรถหลังสงกรานต์ อาจจะดูเหมือนเน้นไปที่การทำความสะอาดมากกว่า แต่หากระหว่างการเดินทางของคุณเคยพบข้อบกพร่องของระบบการทำงานไม่ว่าจะเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก หรือ คลัทช์ ก็ควร จะเร่งหาสาเหตุ โดยพบช่างผู้เชี่ยวชาญและเร่งปรับปรุงซ่อมแซมให้กลับมาทำงานปกติ โดยเฉพาะเรื่องกลิ่นไหม้ต่างๆ อย่าวางใจเพราะ นั่นหมายถึง ระบบได้เคยทำงานเสื่อมประสิทธิภาพลง และอาจจะถึงเวลาที่ต้องแก้ไขในทันที เพราะนอกไปกว่าการทำความสะอาดรถให้กลับมาเช้งกระเด๊ะ เหมือนเดิม

          ทั้งนี้การดูแลรักษารถให้ดีและอยู่ใรสภาพที่พร้อมใช่งานอยู่เสมอ ก็เป็นการรักษาให้รถของเราให้อยู่กับเราไปได้นานขึ้นและถือเป็นการดูแลรักษาชีวิตของเราให้ปลอดภัยในการเดินทางครั้งต่อไปอีกด้วย



ภคมน แสงวิสุทธิ์สิงห์