ในช่วงฝนตกๆแบบนี้ ปัญหาที่ผู้ขับรถมักพบบ่อยคงหนีไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับที่ปัดน้ำฝน ไม่ว่าจะปัดกระจกไม่สะอาด ไม่เกลี้ยง ฝืด สะดุด มีเสียงรบกวน ฯลฯ ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีสาเหตุที่ละเอียดอ่อนเยอะมาก ลองตรวจเช็คตามนี้ครับ
1. ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝน
โดยเฉพาะรถที่จอดตากแดดบ่อย สัมผัสที่จับยางปัดน้ำฝน ถ้ารู้สึกแข็งกระด้าง แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนใหม่แล้ว ย้ำว่าเปลี่ยนแค่ส่วนที่เป็นยางนะครับ ส่วนที่เป็นก้านส่วนใหญ่ถ้ารถไม่เก่ามาก คงไม่ถึงกับหมดอายุหรอกครับ ระวังเสียรู้คนขาย
2. ตรวจสอบกระจก
กระจกหน้ารถมักมีคราบสกปรกหรือคราบน้ำมันเกาะอยู่ ซึ่งเกิดจากฝุ่นละออง ก๊าซ และไอน้ำมันบนท้องถนน วิธีตรวจสอบง่ายๆ เทน้ำเปล่าลงบนกระจกรถ แล้วสังเกตดูว่า ถ้าน้ำเกาะกันเป็นหยดๆบนกระจก แสดงว่ามีคราบน้ำมันเกาะอยู่ที่ผิวกระจก แปลว่ากระจกคุณไม่สะอาด ดูข้อต่อไปเลยครับ
3. ทำความสะอาดกระจก
ล้างกระจกด้วยน้ำยาล้างคราบน้ำมัน โดยใช้ฟองน้ำถูบนกระจกเป็นลักษณะวงกลม แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า สังเกตที่กระจกคราวนี้จะเห็นว่าไม่มีหยดน้ำเกาะที่ผิวกระจกแล้ว ใช้ผ้าเช็ดให้แห้งเป็นอันเรียบร้อย
4. ตรวจสอบมุมและระยะห่าง
สังเกตระยะของที่ปัดน้ำฝนกับกระจก หากชิดติดกันหรือห่างกันเกินไปก็ทำให้ปัดน้ำในไม่สะอาดเช่นกัน คุณสามารถปรับได้ด้วยตัวเอง โดยใช้ประแจจับที่ด้ามของที่ปัดน้ำฝน ปรับมุมด้ามเบาๆให้พอดีกับกระจกรถยนต์ แล้วทดลองปัดและปรับจนพอดี
5. น้ำยาฉีดกระจกจำเป็นแค่ไหน
น้ำยาฉีดกระจก มีหน้าที่ทำความสะอาดกระจก ไม่ได้ช่วยให้หล่อลื่น โดยน้ำยาที่ดีที่สุด คือ น้ำยาสำหรับใส่น้ำฉีดกระจกโดยเฉพาะ ส่วนน้ำยาๆอื่นที่แนะนำปากต่อนั้น ต่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป เช่น น้ำยาล้างจาน อาจทำให้กระจกใส ขจัดคราบมัน แต่อาจกัดกร่อนยางปัดน้ำฝนและถังเก็บ ,น้ำยาสระผม อาจทำให้กระจกลื่น แต่เกิดฟองมากจนทำให้หัวฉีดอุดตันได้
6. น้ำยาเคลือบกระจกดีไหม
น้ำยาเคลือบกระจก ถูกออกแบบมาให้น้ำฝนไม่เกาะกระจก ทำงานในลักษณะฟิล์มบางๆเคลือบผิวกระจกอยู่ ข้อดีคือ น้ำจะไหลลื่นไม่เกาะกระจกโดยที่ไม่ต้องปัดกระจก ซึ่งมีเทคนิคการเคลือบเป็นวงกลมๆ แต่จากการใช้งานจริงพบว่า น้ำยาเคลือบกระจกกลับทำให้ที่ปัดน้ำฝนฝืด อาจเป็นเพราะส่วนผสมที่เป็นคราบน้ำมัน ทำให้ผิวสัมผัสไม่เรียบนั่นเอง ดังนั้นหากต้องการจะใช้ แนะนำเลือกที่มีคุณภาพสูง หรือบางคนมีเทคนิคพิเศษโดยใช้ที่กระจกทุกบานยกเว้นบานหน้านั่นเอง อย่างไรก็ตามบางคนเลือกใช้น้ำยาเคลือบสีรถเคลือบบริเวณกระจกไปด้วย ซึ่งให้ผลลัพท์ที่ใกล้เคียงกัน แต่หากใช้ไปนานๆอาจทำให้กระจกไม่ใสเท่าที่ควร
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้รถนะครับ หากทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดี อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ ลองตรวจสอบกันดูนะครับ ไม่ว่าจะหน้าฝนหรือหน้าไหน ต่างสำคัญไม่แพ้กันครับ
บทความโดย : อภิสุข เวทยวิศิษฏ์