!-- AdAsia Headcode -->

ชายวัย 57ปี ตัดสินใจจบชีวิต! จ่อยิงศีรษะตนเอง ขณะซุกตัวชั้นบนบ้านเช่า หลังก่อเหตุฆ่าหญิงเก็บเงินค่าเช่าบ้าน

05 กรกฎาคม 2561, 18:38น.


      ความคืบหน้ากรณีนายปิยะวัฒน์ เมษศิริเลิศ อายุ 57ปี ใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะน.ส.สิริพร โภชนดา อายุ 64ปี ภายในทาวน์เฮาส์ซึ่งแบ่งเป็นห้องเช่า ซ.จรัญสนิทวงศ์ 34 โดยทั้ง 2 คน อาศัยอยู่หลังเดียวกัน และ น.ส.สิริพร เป็นดูแลเก็บเงินค่าเช่า หลังก่อเหตุนายปิยะวัฒน์ ได้ขึ้นไปซ่อนตัวอยู่แต่ในห้องที่ชั้นบน ซึ่งต่อมา ตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้ประสานหน่วยอรินทราชเข้าปิดล้อมพื้นที่นาน 1 ชม. กันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออก เพื่อเจรจาและเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 13:55น. มีเสียงปืนดังขึ้นจากในห้อง






     พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เปิดเผยว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เจรจาให้มอบตัวอยู่นั้น นายปิยะวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ ต่อรองขอตัดสินใจจนถึงเวลา 15.00น. แต่จู่ๆเวลาประมาณ 13:55 น. ก็ได้มีเสียงปืนดังขึ้น 1นัด เจ้าหน้าที่จึงต้องปฏิบัติตามยุทธวิธีด้วยการบุกเข้าไปด้านใน ด้วยการใช้ระเบิดควันเพื่อเปิดประตู ทำให้มีเสียงดังขึ้นตามมาอีกประมาณ 4-5ครั้ง จากการเข้าตรวจสอบภายในห้อง พบนายปิยะวัฒน์ ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว อยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต ทับปืนที่ใช้ก่อเหตุ ที่ยิงเข้าบริเวณขมับด้านซ้าย จึงประสานแพทย์เข้าตรวจสอบต่อ




      สำหรับสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้ ยังต้องพิสูจน์ทราบอีกหลายส่วน แต่เบื้องต้นคาดว่าอาจมาจากความเครียดที่ไม่ได้ทำงาน และไม่มีเงิน ซึ่งผู้ก่อเหตุมีลูก 2คน ส่วนกระแสที่ว่าเป็นอดีตข้าราชการตำรวจนั้น ต้องขอตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะเหตุการณ์เพิ่งจบลง ในที่เกิดเหตุพบจดหมายลาตาย และเมื่อคืนนี้ได้โทรหาลูกชาย พร้อมบอกว่าตนอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ส่วนการตรวจสอบจุดเกิดเหตุมีปืนอยู่อีก 4 กระบอก ภายในห้อง




      ด้าน รศ.นพ.สุนทร ศรมยุรา ที่ปรึกษาคณะ ภาคนิติเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล  เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ มีผู้เสียชีวิต 2 คน คนแรกคือ น.ส.สิริพร โภชนดา ถูกยิงเข้าที่หางคิ้วด้านซ้าย 1นัด เสียชีวิตคาที่ภายในชั้น1 ของอาคาร ในลักษณะไม่ทันตั้งตัว คาดว่าเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงแล้ว ส่วนอีกคนคือ นายปิยะวัฒน์ เมษศิริเลิศ อายุ 57ปี ได้ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิตเข้าที่ขมับด้านซ้าย เสียชีวิตในทันที หลังจากนี้ต้องนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2คน ไปชันสูตรอีกครั้ง ที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช




      ทั้งนี้ จากคำบอกเล่าของญาติ น.ส.สิริพร แจ้งว่า ตามปกติต้องมาใส่บาตรในตอนเช้าเหมือนทุกวัน แต่เช้านี้ไม่มาจึงผิดสังเกต จนกระทั่งตอน 11:00น. หลานจึงซื้อข้าวเข้าไปให้ และพบว่านอนเสียชีวิตมาแล้วจนเลือดแห้ง โดยส่วนตัวทราบว่า ทั้ง 2 คนมีปากเสียงแรงๆกันบ่อยครั้ง มีปัญหาเรื่องการอยู่อาศัย เช่นความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการขับรถเสียดัง ส่วนจะติดค้างค่าเช่าหรือไม่ยังไม่ยืนยัน แต่วันนี้ตรงกับวันเก็บค่าเช่าที่ขึ้นราคาด้วย ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายปืนตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร สาเหตุที่แน่ชัดรอตำรวจสรุปอีกครั้ง




Cr.กู้ชีพประสานเหตุ

 


 
X