ทุกครั้งที่เราไปเที่ยวทะเลหรือมีโอกาสได้โดยสารทางเรือ เรามักจะเห็นเสื้อชูชีพวางอยู่ นั่นทำให้เรารู้สึกอุ่นใจได้ในทันที ว่าหากเกิดอะไรขึ้นมา ก็ยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราปลอดภัยจากการจมน้ำ ..แต่เดี๋ยวก่อน! เสื้อสีส้ม สีเหลือง หรือสีเขียว ที่วางตรงนั้น อาจไม่ใช่ 'เสื้อชูชีพ แต่เป็น 'เสื้อพยุงตัว' นะ ลองมาทำความเข้าใจกัน
1. เสื้อชูชีพ (Life jacket)
- มีแรงลอยตัวสูง ใช้ได้ทุกสภาพอากาศ ทั้งในน้ำทะเล น้ำเชี่ยว น้ำไหล
- ถูกออกแบบให้พลิกตัวผู้ประสบภัยให้หงายหน้าขึ้น จึงสามารถใช้กับผู้ประสบภัยที่ไม่รู้สึกตัว หมดสติ หรือสลบได้
- มีข้อจำกัด คือ เทอะทะ และจำกัดการเคลื่อนไหว
2. เสื้อพยุงตัว (Buoyancy Aid)
- เหมาะสำหรับกีฬาทางน้ำ เช่น เจ็ทสกี เรือใบ สกีน้ำ เรือแคนู เรือคายัค
- ใส่สบาย และเคลื่อนไหวได้คล่องตัว
- หากใส่เสื้อพยุงตัว ต้องตีขาช่วย เพื่อให้หน้าไม่คว่ำและสามารถเคลื่อนที่ไปในน้ำได้
- ถูกออกแบบให้เป็นตัวช่วยลอยอยู่ในน้ำ มากกว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิต
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีสติและรู้สึกตัว
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้ในกรณีที่ผู้ประสบภัยไม่รู้สึกตัว หมดสติ หรือสลบ เพราะเสื้อพยุงตัวจะไม่ช่วยพลิกให้หน้าของผู้สวมใส่ หงายขึ้นเหนือน้ำเหมือนกับเสื้อชูชีพ
อย่างไรก็ตาม เราควรมองชนิดของเสื้อให้ออก เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองกรณีประสบอุบัติเหตุทางน้ำ และที่สำคัญเพื่อความปลอดภัย เมื่อใส่เสื้อชูชีพหรือเสื้อพยุงตัวแล้ว ควรล็อคในทุกจุด รวมทั้งสายคล้องขา ไม่ควรประมาทโดยเด็ดขาด!!
ขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุข