สารพันอาหาร "ชาร์โคล" กินแล้วให้อะไรกับสุขภาพบ้าง ?

27 สิงหาคม 2561, 19:18น.


        มองไปทางนั้น ทางนี้ ก็เจอแต่อาหารที่ส่วนผสมของ ‘ชาร์โคล’ ไม่ว่าเป็นขนมปัง เบอร์เกอร์ ไอศกรีม โรตี ขนมโตเกียว  ขนมเบื้อง และอื่น ๆ อีกมากที่นึกไม่ถึง แน่ล่ะว่าเทรนนี้เป็นไอเดียทางธุรกิจที่หวังสร้างความแปลกใหม่ ดูแตกต่าง – น่าลิ้มลอง และก็ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีในท้องตลาด แต่สำหรับบางคนก็คงอดสงสัยไม่ได้ว่า เจ้าชาร์โคลที่เห็นสีดำ ๆ เนี่ย เมื่อกินเข้าไปแล้วจะเป็นอันตราย หรือมีประโยชน์อะไรต่อร่างกายบ้างไหม วันนี้เราจะมาไขทุกข้อสงสัยกัน

        ผศ.ดร.นัฐพล ตั้งสุภูมิ ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตร์การอาหารเพื่อโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กูรูด้านอาหารการกิน กล่าวว่า ชาร์โคล หรือ Activated Charcoal ที่จริงแล้วมีคุณสมบัติคล้ายผงถ่านทำอาหารทั่วไป แต่กระบวนการผลิตจะพิเศษกว่า เพราะถูกเผาด้วยความร้อนสูงกว่าถ่านทั่วไป 200 – 300 องศาเซลเซียส ทำให้มีโครงสร้างเป็นรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก สามารถดูดซับกลิ่นและสีได้อย่างเยี่ยมยอด



        เราควรกินชาร์โคลหรือไม่ ?

        ผศ.ดร.นัฐพล ตอบว่า “ไม่จำเป็นเพราะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย” นอกจากจะกินเป็นยาคาร์บอนเวลาท้องเสีย ซึ่งเจ้าชาร์โคล หรือ Activated Charcoal จะเข้าไปดูดซับสารพิษจากอาหารเก็บไว้ที่ตัวมัน และขับออกมาพร้อมอุจจาระ ส่วนการใช้เพื่อเป็นสีประสมอาหาร ถ้าทานในปริมาณน้อย ไม่มากเกิน ก็จะไม่เป็นอันตราย แต่กลับกันถ้าทานเยอะเกินไปในคราวเดียว ก็จะมีอาการเคลื่อนไส้ อาเจียน ท้องไส้ปั่นป่วน



        มีกระแสห้ามใช้ชาร์โคลในอาหาร

        ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาหลังมีกระแสเรื่องความปลอดภัยจากการใช้ชาร์โคลเป็นส่วนผสมอาหาร ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้ถอดชาร์โคลออกจากรายการสีประสมอาหารที่อนุญาตให้ใช้ได้ในปี 2016 ห้ามใส่ในอาหารบางประเภท โดยเฉพาะอาหารที่ต้องใส่ปริมาณมากเพื่อให้ได้สีชัดเจน เช่น ขนมปัง แต่สำหรับประเทศไทย ชาร์โคล ไม่ได้ถูกห้ามใช้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อน



        เชื่อกันว่าชาร์โคลช่วยดีท็อกซ์ ?

        เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เนื่องจากชาร์โคลเป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ ดังนั้นจะตกค้างอยู่ในลำไส้ ก่อนถูกขับออกมาพร้อมกับอุจจาระ แม้จะช่วยดูดซับสารพิษที่ตกค้างในระบบทางเดินอาหารได้ แต่ข้อเสียคือมันอาจดูดซับสารอาหารไปด้วยเช่นกัน ทำให้เราได้รับประโยชน์จากวิตามินและแร่ธาตุน้อยในอาหารลง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยา ประสิทธิผลของตัวยาก็จะต่ำลงไปด้วย



        รู้แบบนี้แล้ว ถ้าเห็นอาหารที่มีส่วนผสมจากชาร์โคล ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกพิจารณาเป็นพิเศษนะครับ เพราะนอกจากจะมีราคาสูงกว่าปกติแล้ว ยังไม่มีประโยน์ต่อร่างกายด้วย

        ที่มา : M
ahidol Channel

        ภาพจาก : bbcgoodfood , ladowntowner , today

X