นานแล้วที่ไม่ได้มาระยอง...และทุกครั้งที่มาก็จะไปเที่ยวทางฝั่งทะเลซะเป็นส่วนใหญ่ แต่วันนี้ได้เปลี่ยนบรรยากาศ มาเที่ยวสวนแม่ลำไย ที่อำเภอวังจันทร์กันค่ะ สวนแม่ลำไย... ไม่ได้ปลูกลำไยนะคะ เค้าปลูกทุเรียนค่ะ สวนแห่งนี้ปลูกทุเรียนมาตั้งแต่ปี 2527 เรียกว่าเป็นสวนเก่าแก่ดั้งเดิม ที่ปลูกทุเรียนไว้หลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งชะนี ก้านยาว หมอนทอง พวงมณี นกหยิบ นวลทองจันทร์ รวมๆ กันแล้วก็ประมาณ 800 ต้นค่ะ
คุณเรวัตร์ แสงวารินทร์ ประธานคณะกรรมการสหกรณ์ "สหกรณ์นิคมวังไทร จำกัด จังหวัดระยอง" ได้เป็นผู้แนะนำสวนแห่งนี้และให้ความรู้เรื่องทุเรียนกับเรา โดยสวนทุเรียนที่ระยองตอนนี้เริ่มมีการนำความรู้และเทคนิคต่างๆ มาผสานกับวิถีแบบดั้งเดิม เพื่อให้ทุเรียนมีคุณภาพที่ดีมากขึ้น สวนทุเรียนที่ระยองนี้จะใช้ดินลูกรังมาปลูกทุเรียน เนื่องจากดินลูกรังมีความร่วนซุย รากทุเรียนชอนไชลงไปหาธาตุอาหารในดินได้สะดวก และมีแร่ธาตุที่เหมาะกับการเติบโตของทุเรียนจึงเป็นที่นิยมมาใช้กันแทบทุกสวนเลยทีเดียว นอกจากเรื่องดินแล้ว การเอาใจใส่ดูแลทุเรียนแต่ละต้นก็ทำให้ได้ผลผลิตที่ดี เพราะทุเรียนหนึ่งต้นแม้จะออกดอกติดผลพร้อมกัน แต่ก็โตไม่เท่ากันนะจ๊ะขอบอก เพราะมันจะแก่จากบนลงล่าง ไล่ลงมา และใน1 ต้นจะไว้ลูกไม่เกิน 75 ลูกต่อต้นเพื่อให้ได้คุณภาพ ที่สำคัญสวนนี้ไม่เน้นส่งออก หรือขายล้งนะคะ เค้าขายตามออเดอร์ที่สั่งซื้อเข้ามาทางสหกรณ์นิคมวังไทรจ้า จึงรับรองได้ว่าเป็นของดีมีคุณภาพแน่นอน เพราะเดี๋ยวนี้ทุเรียนระยองมีการติด QRCode แล้วนะคะ แม้จะยังทำได้ไม่ครบทุกสวนแต่ก้อทำให้เราได้ทราบว่าทุเรียนผลนี้มาจากสวนใคร ใครเป็นคนปลูก เวลาจัดส่งไปให้ลูกค้าก็จะมีคำแนะนำในการปอกทุเรียนให้ด้วย ซึ่งวันนี้ทางพี่เรวัตร์ ได้สาธิตการปอกให้ดู แหม่... ดูแล้วช่างง่ายดายซะเหลือเกิน ปาดก้น... ปาดหัว กรีดตามแนวร่องพูจากหัวลงมา พอแยกพูออกมาแล้วก็ค่อยมากรีดกลางพูง่ายๆ เท่านี้ก็จะได้ลิ้มชิมรสทุเรียนอร่อยๆ กันแล้ว ที่สำคัญอย่าลืม.. มีดต้องแหลมและคมนะจ๊ะ นอกจากนี้พี่เรวัตร์ยังบอกไว้ว่าทุเรียนอร่อยต้องลูกเบี้ยวๆ หน่อย อร่อยแน่และอย่าหนักเกิน 3 กิโลครึ่ง
พี่เรวัตร์เล่าเสร็จจะพาเดินชมสวน ปรากฎว่าฝนกระหน่ำอย่างหนักอดดูของจริง เลยมีของปลอบใจเป็นมื้อกลางวันกับข้าวพื้นบ้านของทางระยอง มีเมนูชื่อแปลกที่ต้องมาทานที่นี่คือ แกงยอดอ่อนสับปะรด แม่ลำไยแกงให้ทานอร่อยใช่ย่อย ตามต่อด้วยของหวาน ข้าวเหนียวเปียกทุเรียน และผลไม้สดๆ จากสวน อิ่มหน่ำสำราญแล้ว ก็จากลาสวนแห่งนี้ไปเที่ยวต่อกันที่สหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด จังหวัดระยอง สมาชิกของสหกรณ์แห่งนี้เมื่อก่อนจะปลูกยางพารากันเยอะ แต่พอมาถึงราคายางตกต่ำ ก็ได้หาพืชอื่นมาปลูกทดแทน ก็คือเมล่อน ที่คุณธิวา สุพรรณเนียม ประธานสหกรณ์บอกไว้ว่าเมล่อนที่นี่มีความหวานเป็นพิเศษกว่าที่อื่น และยังมาประยุกต์เป็นเมนูเก๋ๆได้อีกด้วยค่ะ นอกจากมีผลไม้หลากหลายแล้ว เค้ายังเลี้ยงปลาทับทิมกันในกระชัง ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำประแสร์ด้วยนะคะ ปลาทับทิมที่นี่ตัวโตสีสันสดเหมือนปลาคราฟเลยทีเดียว เมนูขึ้นชื่อคือปลาทับทิมย่างเกลือ ตัวเดียวอิ่มกันไปทั้งครอบครัว ได้รับประทานทั้งของคาวของหวานจนแน่นท้องแล้ว ก็ต้องช้อปของฝาก ของดีของเด็ด อุดหนุนสมาชิกสหกรณ์และชุมชนที่มาออกร้านกลับไปฝากคนที่กรุงเทพกันหน่อย ต้องบอกว่าวันนี้ได้มาเห็นการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร การพัฒนาและเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตของทางจังหวัดระยอง ต้องขอบคุณทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)หรือ ทีเส็บ ที่จัดโครงการไมซ์เพื่อชุมชนขึ้น เป็นการขยายโอกาสทางการตลาดการท่องเที่ยว และสนับสนุนท้องถิ่นที่มีความพร้อมให้พัฒนาไปสู่การรองรับธุรกิจการจัดงานไมซ์ ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะมาเยี่ยมชมและอุดหนุนผลผลิตของสมาชิกทั้งสองสหกรณ์นี้ได้นะคะ