แพทย์เตือน!! แคะหูบ่อย เสี่ยงหูชั้นนอกอักเสบลุกลาม อาจทำให้เป็นอัมพาตใบหน้าครึ่งซีกได้

06 สิงหาคม 2562, 17:01น.


            สำหรับใครที่หลังอาบน้ำจำต้องเอาไม้แคะหู หรือคัตตอนบัดปั่นหูไม่ว่าจะด้วยเหตุผลส่วนตัวใดๆ ก็ตาม เราอยากคุณให้หยุดพฤติกรรมที่ไม่จำเป็นนั้นนับตั้งแต่นี้!! เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หูอักเสบได้ง่าย ซึ่งหากเป็นหูชั้นนอกอักเสบและลุกลามมากๆ จนเชื้อโรค หรือแบคทีเรียเข้าไปถึงกระดูกบริเวณฐานกะโหลก อาจทำให้เรามีใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก หรือที่เรียกว่าอัมพาตใบหน้าครึ่งซีกได้



            ด้วยความห่วงใยจาก พญ. ธนสรัญ วัชราดิลกกุล แพทย์ประจำแผนกโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล จึงอยากฝากผู้ที่ชื่นชอบในการแคะหู โดยเฉพาะหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่า หูของคนเรามีทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่



            - หูชั้นนอก คือ ส่วนที่รวมตั้งแต่ใบหู ช่องหู ตลอดจนเยื่อแก้วหู



            - หูชั้นกลาง คือ ส่วนที่ต่อจากเยื่อแก้วหู ประกอบด้วยกระดูกค้อน กระดูกทั่ง และกระดูกโกลนในหูชั้นกลาง



            - หูชั้นใน คือ ประสาทหู (อยู่ลึกสุด)



            คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดคิดว่าขี้หูเป็นสิ่งที่สกปรก จึงพยายามแคะหรือเขี่ยออกมา แต่จริงๆ แล้วขี้หูนั้นมีประโยชน์ คือ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำให้สภาพสมดุลในช่องหูมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคน้อยลง ซึ่งแพทย์มักพบการอักเสบของหูชั้นนอกมากที่สุด เนื่องจากเป็นบริเวณที่สามารถนำไม้แคะ หรือคัตตอนบัดเข้าถึงได้ง่าย ทั้งนี้ นอกจากพฤติกรรมแคะหู ปั่นหู การทำกิจกรรมอื่นๆ อย่าง ว่ายน้ำ หรือดำน้ำ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบของหูชั้นนอกด้วยเช่นกัน



            อาการหูชั้นนอกอักเสบ

            การอักเสบของหูชั้นนอก ก็คือการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อโรคที่อยู่ในผิวหนังรูหูก่อให้เกิดการอักเสบ โดยอาการที่พบบ่อยๆ ได้แก่ ปวดหู หูอื้อ มีน้ำหนองไหลออกจากรูหู รวมถึงการได้ยินอาจลดลง บางครั้งอ้าปาก หรือขยับปากก็จะปวดบริเวณหน้าหู (ขากรรไกร) ได้



            แล้วแพทย์จะรักษาอย่างไร?



          - หลักจากที่แพทย์ตรวจพบว่ามีการอักเสบของหูชั้นนอก ไม่ว่าจะเป็นหนอง เนื้อเยื่อที่ตาย หรือเนื้อเยื่ออักเสบ แพทย์ก็จะทำความสะอาดรูหูโดยใช้เครื่องดูดขี้หูออกมา รวมถึงใช้ยาหยอดหูที่ผสมยาปฏิชีวนะ



          - แต่ในบางคนที่เกิดการอักเสบมากๆ หรือผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ได้รับยากดภูมิ หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง (ได้รับการฉายแสงและให้เคมีบำบัด) การรักษาก็จะเปลี่ยนไปให้ยาปฏิชีวนะชนิดกินแทน



          - ส่วนกรณีที่มีการอักเสบลุกลามมากจนใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก แพทย์จะรักษาโดยการผ่าตัด



              หาซื้อยาหยอดหูใช้เองได้ไหม?

            สำหรับผู้ที่คิดว่าแค่เป็นแผลในหูเล็กๆ แล้วไปซื้อยามาหยอดเอง พญ. ธนสรัญ ไม่แนะนำให้ทำ เนื่องจากยาหยอดหูมีหลายชนิด ดังนั้น ในบางคนอาจเกิดการแพ้ หรือหากผู้ป่วยคนนั้นๆ มีการทะลุของเยื่อแก้วหูอยู่แล้ว ยาหยอดหูที่หยอดลงไปอาจเข้าทำลายประสาทหูชั้นในได้ เนื่องจากในตัวยาหยอดหูบางชนิดมีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะอยู่



            ในบางคนที่มีขี้หูอุดตันจนหูอื้อ แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางตา หู คอ จมูก เพื่อดูดขี้หูออกได้ แต่โดยปกติหากไม่มีขี้หูอุดตัน ไม่มีอาการหูอื้อ ก็ไม่จำเป็นที่ต้องไปดูดขี้หูออก ทั้งนี้ หากใครที่พบว่าตัวเองมีอาการหูชั้นนอกอักเสบดังที่กล่าวมา ทางที่ดีที่สุดควรเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการวินิจฉัย และรักษาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม



 



ข้อมูล/รูปภาพ : Mahidol Channel



 



 



 



 



 

X