!-- AdAsia Headcode -->

ต้องช่วยเหลืออย่างไร หากมีวัตถุหรือสิ่งแปลกปลอมติดคอ

15 สิงหาคม 2562, 11:29น.


     ในช่วงเทศกาลต่างๆ ของวัฒนธรรมรวมถึงคนไทยเชื้อสายจีน มักจะมีการเซ่นไหว้อาหารคาวหวานหลากหลายชนิด และจะพบปัญหาบ่อยครั้งเรื่องของอาหารติดคอ โดยเฉพาะในเด็กจะมองอาการไม่ออก สังเกตอาการเจ็บเมื่อกลืนลำบาก น้ำลายไหล หรือเจ็บคอ คลื่นไส้อาเจียน สำลัก ขย้อนเมื่อกลืนอาหาร เด็กปฏิเสธการกินอาหาร เจ็บหน้าอก ปวดท้อง หรือรู้สึกว่ามีบางอย่างติดอยู่ในคอ ไอ หายใจลำบาก หายใจเสียงดังหวีด หรือมีไข้ตามมา และผู้สูงอายุ “ก็ว่าไม่ได้นะ..ก็มันอร่อยนี่นา” แต่ถึงอย่างไรก็ควรกินคำเล็กๆ ค่อยๆเคี้ยว



     ไม่เพียงแต่ขนมที่มีรสสัมผัสเหนียวนุ่มอย่างขนมเข่ง ขนมเทียน และขนมไทยอีกหลายชนิด อาหารคาวก็ติดคอได้ เช่นก้างติดคอและปัญหาเผลอกลืนอาหารไม่ทันระวังอาจเกิดความระคายเคือง และเป็นอันตรายเกิดแผลบริเวณหลอดอาหาร จะรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่กลืน ยิ่งไปกว่านั้นอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย

     ทว่าวัตถุบางอย่างติดอยู่ที่หลอดอาหารบริเวณลำคอ จนทำให้เกิดบาดแผลตามมา เช่น ก้างปลา กระดูก เป็นต้น ดังนั้น แม้จะรู้สึกว่าวัตถุดังกล่าวเคลื่อนไปสู่ท้องแล้วก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่ามีแผลจากการกลืนหรือไม่ รวมทั้งในกรณีที่มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่บริเวณลำคอหรือคาดว่ายังอยู่ในร่างกาย โดยเฉพาะวัตถุปลายแหลมที่อาจทำให้ผนังหลอดอาหารบาดเจ็บมากกว่าเดิม และควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากเผลอกลืนถ่านนาฬิกาหรือแบตเตอรี่ก้อนเล็ก ๆ ซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบเสียหายได้



     เมื่อมีวัตถุแปลกปลอมหรือก้างติดคอ หากทำได้ ผู้ป่วยควรพยายามไอเอาวัตถุนั้น ๆ ออกมา บางคนที่มีก้างติดคอนิยมใช้วิธีดื่มน้ำเยอะ ๆ กลืนข้าว ข้าวเหนียว กล้วย มาร์ชเมลโล่ หรืออาหารชนิดใดก็ตามที่อาจช่วยดันให้ก้างหลุดออกจากบริเวณคอไปยังกระเพาะ ซึ่งบางครั้งก็อาจไม่ได้ผล ทางที่ดีจึงควรไปพบแพทย์ให้ช่วยคีบออก เพราะหากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจเกิดบาดแผลหรือการติดเชื้อตามมา

     ในกรณีที่เผลอกลืนวัตถุจนเกิดการสำลักหรือวัตถุดังกล่าวไปปิดทางเดินหายใจจนหายใจลำบากหรือไม่สามารถพูดคุยได้ตามปกติ ควรปฏิบัติตามหลักปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้

      ยืนหลังผู้ที่มีอาการสำลัก หากเป็นเด็กให้นั่งคุกเข่าลงหลังเด็ก ใช้แขนข้างหนึ่งวางรองที่หน้าอกของผู้ป่วยเพื่อพยุง กำหมัดข้างหนึ่งวางบริเวณเหนือสะดือผู้ป่วยเล็กน้อย(ดังรูป) ใช้มืออีกข้างจับมือที่กำหมัดไว้แล้วทำการอัดเข้าท้องแรงๆ เร็วๆ ขึ้นไปข้างบน คล้ายกับจะพยายามยกผู้ป่วยขึ้น ทำติดต่อกัน 5 ครั้ง สลับกับใช้ฝ่ามือตบหลังบริเวณระหว่างกระดูกสะบัก หรือทำจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา ไม่ต้องกลัวว่าผู้ป่วยจะเจ็บ ส่วนคนท้องและคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานจะแนะนำให้ระดับกำปั้นอยู่เหนือขึ้นมาบริเวณหน้าอก



     หากอยู่ตามลำพัง ควรโทรเรียกรถพยาบาลทันที รวมทั้งปฐมพยาบาลให้ตนเองในเบื้องต้นด้วยการใช้กำปั้นทุบท้อง โดยวางกำปั้นเหนือสะดือเล็กน้อย ใช้มืออีกข้างกุมกำปั้นไว้แล้วโน้มตัวลงไปข้างหน้า และผลักกำปั้นเข้าหาหน้าอกในแนวเอียงขึ้นบน

     หลังจากนั้นควรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินทันที แม้ว่าผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นแล้วก็ตาม หากมีบุคคลอื่นอยู่ด้วย ให้แจ้งตั้งแต่เริ่มมีอาการ ในกรณีที่ผู้ป่วยหมดสติ ควรจัดท่าให้นอนหงายบนพื้น หากมองเห็นวัตถุภายในปากให้ใช้นิ้วมือหยิบออกมาอย่างระวัง อย่าเผลอดันให้วัตถุเข้าไปลึกกว่าเดิม หากยังมีวัตถุติดอยู่และผู้ป่วยไม่ตอบสนองใด ๆ ให้ทำการปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต



Cr.ข้อมูลและภาพจากเว็บไซต์ pobpad.com,chaipat.or.th, rakluke.com,Bangkok Hospital



 

X