“ทาเล็บอีกแล้วเหรอ ระวังเป็นมะเร็งนะ” เชื่อว่าสาวๆ ที่ชื่นชอบการทาเล็บคงเคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของน้ำยาทาเล็บว่าจะทำให้เป็นมะเร็งได้จริงๆ เหรอ ซึ่งสร้างความวิตกกังวลใจไม่น้อย ยิ่งมีเพื่อนสนิทมิตรสหายมาทักแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ด้วยความห่วงใยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องน้ำยาทาเล็บ รวมถึงวิธีทาเล็บอย่างถูกวิธีเพื่อสร้างความเข้าใจในหมู่สาวๆ ทาเล็บบ่อยเป็นมะเร็งได้?
ก่อนที่จะไปค้นหาคำตอบว่าการทาเล็บบ่อยๆ นั้นเป็นมะเร็งได้? เรามาทำความรู้จักกับน้ำยาทาเล็บสักเล็กน้อยดีกว่า โดยน้ำยาทาเล็บแน่นอนว่ามีไว้เพื่อเพิ่มความสวยงามให้แก่เล็บ แต่ถึงกระนั้นในน้ำยาทาเล็บก็มีสารเคมีหลายชนิดมาก ซึ่งหากใช้ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น
1. ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) : เป็นสารที่มีกลิ่นฉุนและไม่มีสี ช่วยให้น้ำยาทาเล็บแข็งตัว หากใช้บ่อยจะทำให้เล็บแห้ง เปราะได้ง่ายขึ้น ซึ่งตามกฎหมายอาจใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเล็บที่ความเข้มข้นไม่เกิน 5%
2. โทลูอีน (Toluene) : เป็นสารเคมีที่ช่วยให้น้ำยาทาเล็บมีผิวเรียบเมื่อทาลงไปบนเล็บ ซึ่งหากสูดดมเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อลำคอและปอดได้ ตามกฎหมายจึงสามารถนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเล็บที่ความเข้มข้นไม่เกิน 25%
ทั้งนี้ สารตัวอย่างที่กล่าวมาล้วนมีความเกี่ยวข้องกับการก่อมะเร็งได้ ดังนั้น คำถามที่ว่าหากเราทาเล็บบ่อยๆ แล้วจะทำให้เกิดมะเร็งได้? ตอบตรงนี้เลยว่ามีโอกาสเกิดขึ้น “จริง” แต่น้อยมาก เนื่องจากน้ำยาทาเล็บในปัจจุบันจะระเหยและแห้งค่อนข้างเร็ว แต่ทางที่ดีใครชื่นชอบการทาเล็บควรรู้จักกับวิธีการทาเล็บให้ถูกต้องไว้หน่อย เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนเอง ไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อร่างกาย
ทาเล็บอย่างไรให้ถูกวิธี
1. เลือกใช้น้ำยาทาเล็บที่มีการจดแจ้งกับ อย. แล้ว
2. เปิดหน้าต่างและประตูก่อนใช้น้ำยาทาเล็บ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
3. ควรปล่อยให้น้ำยาทาเล็บแห้งเอง พยายามอย่าใช้ปากเป่าจนแห้ง
สำหรับน้ำยาทาเล็บนั้นล้วนแล้วแต่มีสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถทาเล็บต่อไปอีกได้ สาวๆ ก็อย่าเพิ่งกังวลใจไปล่ะ เพราะหากเราใช้น้ำยาทาเล็บที่ถูกวิธี และไม่ทาเล็บบ่อยจนเกินไป จะช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งอย่างแน่นอน
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา