ย้อนดูมาตรการการช่วยเหลือเกษตรกรจากรัฐบาล

15 เมษายน 2563, 16:31น.


            สืบเนื่องจากการลงทะเบียน 5,000 บาท หลายคนถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากระบบชี้ว่า "เป็นเกษตรกร" ทั้งที่มีคนจำนวนไม่น้อยทำอาชีพรับจ้างอย่างอื่น ไม่ได้ทำเกษตรกรรมแล้ว หรือไม่เคยประกอบอาชีพเกษตรกรรมเลย ทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้น แต่เมื่อมองย้อนกลับไปครอบครัวของตนเองได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และได้มีการลงทะเบียนเกษตรกรแบบกลุ่มครัวเรือน เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์การช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยมีการยืนยันเป็นสมุดทะเบียนเกษตรกร ทำให้บางคนอาจมีรายชื่อ และพลาดโอกาสรับเงินเยียวยา 5,000 บาทไป



            JS100 จะพาไปย้อนดูมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลผู้ลงทะเบียนเกษตรกรฯ ในปีล่าสุดกัน เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงถูกตัดสิทธิ์

            โครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรจากกระทรวงเกษตรฯ



            ในปี 2562 ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ ได้มีโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรต่างๆ โดยโครงการสำคัญๆ ได้แก่ โครงการตามแผนปฏิบัติการฟื้นฟูเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัย ปี 2562 ในพื้นที่ฝนทิ้งช่วง 19 จังหวัด และอุทกภัย 30 จังหวัดในปี 2562 โดยเปิดให้ลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม - 10 พฤศจิกายน 2562 ทั้งหมด 5 โครงการ ได้แก่



            1. โครงการส่งเสริมการปลูกพืชน้ำน้อยเพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร รับผิดชอบโดยกรมส่งเสริมการเกษตร ตั้งเป้ามีเกษตรเข้าร่วม 150,000 ครัวเรือน พื้นที่ 1.4 ล้านไร่ โดยสนับสนุนเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเกษตรกรเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ให้ความช่วยเหลือตามพื้นที่ปลูกจริง รายละไม่เกิน 20 ไร่ แบ่งเป็น



            - ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เกษตรกร 100,000 ครัวเรือน รายละไม่เกิน 20 ไร่ อัตราไร่ละ 245 บาท (ครัวเรือนละ 4,900 บาท)



            - ถั่วเขียว เกษตรกร 50,000 ครัวเรือน รายละไม่เกิน 20 ไร่ อัตราไร่ละ 200 บาท (ครัวเรือนละ 4,000 บาท)



             2. โครงการรรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ปี 2563/64 รับผิดชอบโดยกรมการข้าว ตั้งเป้ามีเกษตรกรเข้าร่วม 827,000 ครัวเรือน เมล็ดพันธุ์ข้าว 63,200 ตัน พื้นที่รวม 6.32 ล้านไร่ โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกร ไร่ละ 10 กิโลกรัมไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่

           3. โครงการพัฒนาทางเลือกอาชีพด้านประมง การเลี้ยงปลานิลแปลงเพศในบ่อดิน  รับผิดชอบโดยกรมประมง ตั้งเป้ามีเกษตรกรเข้าร่วม 50,000 ราย โดยสนับสนุนพันธุ์ปลานิล ขนาดประมาณ 5-7 เซ็นติเมตรขึ้นไป รายละ 800 ตัว และอาหารสัตว์น้ำนำร่อง จำนวน 120 กิโลกรัม ให้แก่เกษตรกร



           4. โครงการสร้างรายได้จากอาชีพประมงในแหล่งน้ำชุมชน รับผิดชอบโดยกรมประมง ตั้งเป้าเป็นแหล่งน้ำในชุมชน จำนวน 1,436 แห่ง ในพื้นที่ 129 อำเภอ โดยสนับสนุนลูกพันธุ์กุ้งก้ามกรามนำไปปล่อยในแหล่งน้ำของชุมชน ขนาดลูกพันธุ์ประมาณ 5-7 เซนติเมตรขึ้นไป จำนวน 200,00 ตัวต่อแหล่งน้ำ



           5. โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีก รับผิดชอบโดยกรมปศุสัตว์ ตั้งเป้าเกษตรเข้าร่วม 48,000 ราย โดยสนับสนุนเงินโอนเข้าบัญชีเกษตรกร เพื่อซื้อพันธุ์ไก่ไข่ เป็ดไข่ ครัวเรือนละ 10 ตัว และไก่พื้นเมืองคละเพศ ครัวเรือนละ 30 ตัว พร้อมอาหารและค่าวัสดุ ครัวเรือนละ 4,850 บาท

            โครงการช่วยเหลือเกษตรกรจาก ธ.ก.ส.



            ในส่วนของโครงการช่วยเหลือจาก ธ.ก.ส. ที่เราได้คัดเลือกและจะพาไปย้อนดูนั้น มีด้วยกัน 3 โครงการ ได้แก่



            1. โครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว



            - ปี 2561 ช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี ไร่ละ 1,500 บาท ตามพื้นที่ปลูกข้าวจริงไม่เกินครัวเรือนละ 12 ไร่ หรือคิดเป็นเงินไม่เกินครัวเรือนละ 18,000 บาท



            - ปี 2562 ช่วยเหลือเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวนาปี (รอบที่ 1 เท่านั้น) ไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งจะทยอยจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2563



            2. โครงการเยียวยาเกษตรกรนาข้าวผู้ประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งจ่ายชดเชยให้ไร่ละ 1,113 บาท ต่อไร่



            3. โครงการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน โดยอัตโนมัติ (เดือนเมษายน พฤษภาคมและมิถุนายน 2563) ให้กับลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อที่มีกำหนดชำระเป็นรายเดือน มีสถานะเป็นหนี้ปกติหรือค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน

         หากคุณไม่แน่ใจว่าตนเองมีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนเกษตรกรหรือไม่ สามารถตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรและสมาชิกครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรโดยใส่เลขบัตรประจำตัวประชาชนได้ที่ http://farmer.doae.go.th/ และหากพบว่าตนเองมีรายชื่อสามารถยกเลิกการเป็นสมาชิกได้ด้วยแอปพลิเคชั่น Farmbook (เฉพาะ Android) ได้ทันที

   
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า การขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรนั้น มีสิทธิประโยชน์ต่างๆหลายด้าน จึงทำให้จำนวนการขึ้นทะเบียนเป็นครัวเรือนเกษตรกรมีจำนวนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาทิ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562 ซึ่งใครก็ตามมีชื่อขึ้นทะเบียนย่อมจะไม่ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยา 5,000 บาท จากกระทรวงการคลัง ซึ่งถือเป็นกองทุนที่มา"เก็บตก'ช่วยเหลืออาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจากได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิ์อาชีพเป็นเกษตรกรแล้วนั่นเอง



   





            





       



 

X