อย่าเพิ่งงง!! คนไทยก็มีชื่อกลาง แล้วชื่อกลางมาจากไหน ทำไมต้องมี ??

         หลังจากที่ภาครัฐได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการ 'เราชนะ' โดยกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ซึ่งปกติแล้วในการกรอกข้อมูลลงทะเบียนรับสิทธิประโยชน์ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น "โครงการเราเที่ยวด้วยกัน" หรือ"โครงการคนละครึ่ง" นั้นจะมีช่องให้ประชาชนได้กรอกชื่อและนามสกุลเป็นภาษาไทย แต่สำหรับโครงการ 'เราชนะ' นั้น เพิ่มช่องของ 'ชื่อกลาง' (middle name) เข้าไปด้วย ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าชื่อกลางคืออะไร ชื่อกลางคือชื่อเล่นหรือไม่ ? หรืองงไปเลยก็มีว่าช่องนี้ ต้องใส่คำว่าอะไรลงไป

           คำตอบ คือ 'ไม่ใช่ชื่อเล่น' โดยชื่อเล่นนั้นส่วนมากจะเป็นชื่อสั้น ๆ ที่ย่อมาจากชื่อจริง หรืออาจเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้เรียกง่ายกว่าชื่อจริง แต่สำหรับ 'ชื่อกลาง' มีไว้เป็นตัวช่วยให้ระบุตัวตนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่นใช้แสดงที่มาและเชื้อสายวงศ์ตระกูล โดยอาจจะมาจากชื่อจริงชื่อที่สอง ชื่อสกุลเดิมก่อนแต่งงาน ชื่อทางศาสนา หรืออื่น ๆ รวมถึงเวลาใช้เขียนจริงปกติ อาจละรูปเหลือแต่เพียงตัวย่อก็ได้ ยกตัวอย่างคนที่ใช้ชื่อสกุลและมีชื่อกลางด้วย เช่น ชมพู่ อารยา นักแสดงชื่อดัง ก็มีชื่อว่า อารยา เอ ฮาเก็ต (Araya A. Hargate) โดย A. เป็นอักษรย่อของชื่อกลางคือ Alberta นั่นเอง

          นายสมยศ พุ่มน้อย รองอธิบดีกรมการปกครอง  ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าชื่อกลาง หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Middle name เป็นชื่อรองที่ระบุเพื่อความชัดเจนของตัวตน นิยมใช้ในต่างประเทศ เนื่องจากมีชื่อและนามสกุลที่ซ้ำกันเยอะ ชื่อกลางจึงช่วยบอกความแตกต่างของการระบุตัวตนได้ ในประเทศไทยมีพระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. ๒๕๐๕ ว่า"ชื่อรอง" หรือ "ชื่อกลาง"  หมายถึงชื่อประกอบถัดจากชื่อตัว และต้องมีการบันทึกอยู่ในระบบทะเบียนราษฎรหรือในบัตรประชาชน  จากการตรวจสอบในทะเบียนราษฎร์  ปี 2563 มีคนไทยขอจดทะเบียนชื่อรอง 948 คน ปี 2562 จดทะเบียน 1,046 คน ปี 2561 จดทะเบียน1,414 คน ซึ่งตามพรบ.ชื่อ-สกุล มีการกำหนดเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2505  โดยระเบียบของการจดทะเบียนชื่อรอง ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม  ชื่อรองต้องไม่คล้องนามสกุลคนอื่น เว้นแต่กรณีอยากตั้งเช่น ชื่อกลางของผู้หญิงอาจจะมาจากนามสกุลเก่าก่อนแต่งงาน แต่เมื่อแต่งงานแล้วต้องเปลี่ยนนามสกุลตามสามี จึงนำเอานามสกุลเก่ามาใช้เป็นชื่อกลาง ก็สามารถทำได้และนิยมทำอยู่ในปัจจุบัน หรือบางครอบครัวอาจใช้ชื่อกลางในการระลึกถึงบุคคลอันเป็นที่รัก เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เพื่อเป็นการระลึกถึงแต่ถ้าเปรียบเทียบกับประชากรทั้งหมด คนไทยยังไม่นิยมใช้ชื่อรองกันมากนัก