เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาจะพบกับข่าวเกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าที่เกินจริง รวมถึงยื่นฟ้องผู้ร่วมทำโฆษณา อย่าง นายยิ่งยง บัวงาม หรือประยงค์ บัวงาม นักร้องนักแสดง แต่ถึงกระนั้นก็อาจจะยังมีบางคน บางกลุ่มหลงเชื่อและกำลังจะเลือกซื้อมาบริโภคอยู่ ด้วยความห่วงใยจาก ผศ.นพพิสนธิ์ จงตระกูล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงได้ออกมาอธิบายข้อมูลของ “ถั่งเช่า” กับสรรพคุณที่เกินจริง และกรณีที่มีการกระทำฝ่าฝืน พรบ.อาหาร พ.ศ. 2522 สร้างความเข้าใจใหม่ให้กับทุก ๆ คน
“ถั่งเช่า” กับสรรพคุณที่เกินจริง
ผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุญาตมี 2 กลุ่มด้วยกัน คือ ยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีถังเช่าเป็นส่วนประกอบ โดยปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์ที่มีคุณภาพดีที่ยืนยันว่าถั่งเช่ามีสรรพคุณต่อการบรรเทาหรือรักษาโรคใดๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคไต โรคตับ โรคถุงลมโป่งพอง โรคหอบหืด โรคความจำเสื่อม การเพิ่มภูมิต้านทานโรค การเพิ่มสมรรถภาพทางการหรือทางเพศ การลดไขมันในเลือด และอื่นๆ
การโฆษณาว่าถั่งเช่าช่วยบรรเทาหรือรักษาโรคใดๆ เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พรบ.อาหาร พ.ศ. 2522 มีโทษทั้งจำและปรับต่อบริษัทผู้ผลิต ผู้ทำการโฆษณา พรีเซนเตอร์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งนี้ หากสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ และผู้ให้บริการโครงข่ายกล่องดาวเทียมที่ยินยอมให้มีการโฆษณาเกินจริงจะได้รับโทษปรับด้วยจากคำสั่งทางปกครองของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ใครกำลังจะซื้อถั่งเช่าหยุดก่อน!!
ประชาชนไม่ควรหลงเชื่อการโฆษณาสรรพคุณที่เกินจริงของถั่งเช่า เพราะจะทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ สูญเสียโอกาสในการรักษาโรค และอาจเกิดผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น การกำเริบของโรคแพ้ภูมิตัวเอง ทำให้เลือดออกหยุดยาก ทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ และทำให้ไตทำงานลดลงในผู้ใช้ถั่งเช่าบางคน เป็นต้น
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าทุก ๆ คนที่เผลอหลงเชื่อหรือดูโฆษณาแล้วกำลังจะสั่งซื้อจะหยุดการกระทำทุกอย่าง และหันมาดูแลสุขภาพด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำเยอะๆ รวมถึงกินยาตามคำสั่งแพทย์/เภสัชกรเท่านั้น และอย่าลืมว่าผลิตภัณฑ์อาหารไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตามควรต้องได้รับการยืนยัน มีเลขผลิตภัณฑ์จากทางอย.เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย
ข้อมูล : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย