อัยการสูงสุดรับมอบสำนวนสั่งฟ้อง 'ผกก.โจ้-พวก' คดีถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหา

03 พฤศจิกายน 2564, 16:15น.


          นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าสำนักงานคดีอัยการสูงสุดได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน บก.ป. คดีระหว่างน.ส.จันทร์จิรา ธนะพัฒน์ ผู้กล่าวหาที่ 1 พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผู้กล่าวหาที่ 2 กับพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผู้กำกับโจ้ พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว หรือดาบโบ้ ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน



          ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฆ่าผู้อื่น (นายจิระพงศ์หรือมาวิน ธนะพัฒน์) โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้น หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมสิ่งนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91, 157, 309 วรรคสอง, 289 (5) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 เหตุเกิดระหว่างวันที่ 5 - 6 ส.ค. 2564 ที่ห้องทำงานชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์



          โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 7 คนตามข้อกล่าวหา ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุมและฝากขังไว้ตามคำสั่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 4 จะครบฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 6 พ.ย. 2564 และผู้ต้องหาที่ 2, 3, 5, 6 และ 7 จะครบฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 5 พ.ย 2564 ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 143 วรรคท้ายผู้มีอำนาจสั่งพิจารณาคดีนี้คืออัยการสูงสุดโดยคำสั่งอัยการสูงสุดถือว่าเด็ดขาด



          นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษก ฯ กล่าวว่า สำนวนคดีนี้แยกเป็น 2 ส่วนคือ สำนวนฆ่าผู้อื่นฯ และสำนวนการชันสูตรพลิกศพ ตามกฎหมายป.วิอาญา มาตรา 150 วางหลักเกณฑ์ว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องชันสูตรพลิกศพและทำสำนวนส่งให้พนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อไต่สวนการตาย ว่า ผู้ตายเป็นใคร ตายด้วยสาเหตุใด แล้วส่งกลับให้อัยการ เมื่ออัยการพิจารณาแล้วก็ส่งคืนให้พนักงานสอบสวนรวมเข้ากับคดีหลัก แล้วส่งให้อัยการสูงสุดพิจารสั่งฟ้อง ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเพียงคนเดียวเมื่อมีคำสั่งอย่างใด ถือเป็นเสร็จเด็ดขาด



          สำหรับหน่วยงานที่มีหน้าที่คัดกรองตั้งเรื่องให้กับอัยการสูงสุด คือสำนักงานกิจการคดี พิจารณาส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ถ้าในที่สุดมีการยื่นฟ้องคดีต่อศาล ก็จะต้องส่งสำนวนให้สำนักงานอัยการคดีการปราบปรามและประพฤติมิชอบยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางต่อไป



          พล.ต ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวว่า วันนี้ (3 พ.ย.) พนักงานสอบสวน ส่งสำนวนการสอบสวน อดีต ผกก.โจ้ กับลูกน้องข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ จำนวน 7 แฟ้ม รวม 2,540 แผ่น ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนมีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่รวบรวมมาทั้งหมด เนื่องจากมีพนักงานอัยการเข้าร่วมสอบสวนตั้งแต่แรก ที่ จ.นครสวรรค์ กระทั่งโอนคดีเข้ามาที่กองปราบปราม เพราะตามกฎหมาย บัญญัติไว้ว่าหากเป็นการตายที่อยู่ระหว่างการควบคุมของพนักงาน หรือตายเพราะการกระทำของเจ้าพนักงาน ให้อัยการเข้าร่วมสอบสวนด้วย ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น คดีนำเข้ารถหรู เป็นการแยกดำเนินคดีต่างหาก อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เพราะมีเอกสารจำนวนมาก และมีอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการ



...



#ผกกโจ้



#ถุงดำคลุมหัว



 

ข่าวทั้งหมด

X