'ปูติน' ประกาศ รัสเซียมีสิทธิใช้อาวุธโจมตีกลับ 'เซเลนสกี' ชี้ว่าเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ เพิ่มความรุนแรง

           หลังจาก กองทัพอากาศยูเครน ระบุว่า เมื่อเช้าวันพฤหัสฯ(21 พ.ย.67) รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM)หนึ่งลูกจากแคว้นอัสตราฮันทางภาคใต้ของรัสเซีย เพื่อโจมตีเมืองดนีโปร (Dnipro)ทางภาคกลางของยูเครน

         ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวปราศรัยต่อประชาชนผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ที่เครมลิน ในกรุงมอสโก เมื่อวันอังคาร(19 พ.ย.67) กองทัพยูเครน โจมตีเป้าหมายในภูมิภาคไบรอันสค์ของรัสเซียด้วยขีปนาวุธ ATACMS ที่ผลิตในสหรัฐฯ จำนวน 6 ลูก และต่อมายังยิงระบบ Storm Shadow ของอังกฤษและฝรั่งเศส โจมตีภูมิภาคเคิร์สต์ อีกด้วย ทำให้รัสเซียมีสิทธิที่จะใช้อาวุธของเราโจมตีฐานทัพของประเทศต่างๆ ที่อนุญาตให้ใช้อาวุธโจมตีฐานทัพของเรา และในกรณีที่มีการกระทำก้าวร้าวเพิ่มมากขึ้น เราจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดและเท่าเทียมกัน นายปูติน อ้างว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสามารถสกัดการโจมตีทั้งสองครั้งได้ และไม่มีผู้เสียชีวิตหรือความเสียหายสำคัญใดๆ

        ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวในโพสต์บน X เมื่อวันพฤหัสฯ(21 พ.ย.67) ว่าการที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดใหม่ เป็นการเพิ่มระดับและความโหดร้ายของสงครามนี้อย่างชัดเจนและรุนแรง นายเซเลนสกี เรียกสิ่งนี้ว่าการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ และกล่าวหารัสเซียว่าเป็นการยกระดับสถานการณ์ครั้งที่สอง ครั้งแรก คือ การที่กองทหารเกาหลีเหนือ เข้าไปเกี่ยวข้องในสงคราม

         ในส่วนของสหรัฐฯ ซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวว่าสิ่งที่เรามุ่งเน้นคือการสนับสนุนยูเครนต่อไปด้วยสิ่งที่จำเป็นเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย

#รัสเซียยูเครน

แฟ้มภาพ