ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย'ภารกิจล่าเหรียญ Jagat'เสี่ยงติดคุก เร่งหาตัวแอดมินเพจ

วันนี้, 09:49น.


           ความวิตกกังวล กิจกรรมตามล่าหาเหรียญ Jagat สามารถนำเหรียญที่พบไปแลกเป็นเงินสดได้  พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ผบช.สอท.) เห็นถึงความสำคัญของปัญหาซึ่งอาจจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ และความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เนื่องจาก การเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Jagat จะต้องมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและยังสามารถเข้าถึงพิกัดของผู้เล่นได้ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ศุภกร ผิวอ่อน รรท.ผบก.สอท.5 เร่งรัดตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชัน Jagat ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่ทำการประชาสัมพันธ์กิจกรรมล่าเหรียญ Jagat ว่ามีความปลอดภัยและได้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่



           จากการตรวจสอบเบื้องต้น พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประเสริฐ หวังบุญสร้าง รอง ผกก.1 บก.สอท.5 พ.ต.ท.ญาณศักดิ์ บุญสนอง สว.กก.1 บก.สอท.5 ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการ จ.ภูเก็ต ออกตรวจสอบจุดที่มีการแสดงพิกัดของเหรียญในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พบมีชายวัยรุ่น 2 คน มาตามหาเหรียญ โดยแจ้งว่าทราบกิจกรรมดังกล่าวจากสังคมออนไลน์ จึงออกติดตามหาเหรียญแต่ไม่พบ จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงข้อกฏหมายและวิธีปฏิบัติตัวเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ก่อนที่วัยรุ่นดังกล่าวจะเดินทางกลับ และยังได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต ในการวางมาตรการดูแลความปลอดภัย และให้ความรู้กับประชาชนที่ร่วมกิจกรรม เพื่อให้ปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง



          ตำรวจไซเบอร์ขอประชาสัมพันธ์ว่า การเข้าร่วมกิจกรรมตามล่าหาเหรียญดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก ต้องโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและระบุพิกัดตำแหน่งปัจจุบันที่ท่านอยู่ ซึ่งอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเองอีกด้วย จึงขอให้พึงระวังไม่กระทำผิดกฎหมายขณะเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว



           ประชาชนจำนวนมากร้องเรียนพฤติกรรมของประชาชนบางกลุ่มในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งได้รับการเชิญชวนทางสื่อออนไลน์ ให้เข้าร่วมกิจกรรมตามล่าหาเหรียญ Jagat ซึ่งจะสามารถนำเหรียญที่พบไปแลกเป็นเงินสดได้ แต่กลับพบว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมบางคนมีพฤติกรรมในการตามหาเหรียญ Jagat ซึ่งซ่อนอยู่ในสถานที่ต่างๆ ในลักษณะที่ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญในการดำรงชีวิตประจำวันและมีการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของผู้อื่น ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายอาญา



           “Jagat” คือ แพลตฟอร์มจากประเทศอินโดนีเซีย โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์ “Jagat Coin Hunt” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ล่าสมบัติในโลกเสมือนจริง รวบรวมเหรียญและรางวัลที่สามารถแปลงเป็นมูลค่าในโลกความจริงได้ โดยการผสมผสานเทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) เกม และบล็อกเชนเข้าด้วยกัน ด้วยรูปแบบการเล่นที่โต้ตอบได้และโอกาสในการรับรางวัลเป็นเงินจริงๆ Jagat Coin Hunt จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นสามารถออกสำรวจสถานที่ต่าง ๆ เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ และค้นหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ พร้อมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลไปพร้อมกัน ทำให้เกมนี้เป็นมากกว่าเกมทั่วไป



           สำหรับในประเทศไทย แอปฯ Jagat เปิดให้เล่นในสถานที่สาธารณะ 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และ ชลบุรี (พัทยา) และมีผู้ใช้งานออกมายืนยันว่าได้รับเงินจริง โดยเหรียญจะมีทั้งหมด 3 สี คือ เหรียญทองแดง มูลค่า 500 - 2,000 บาท เหรียญเงิน มูลค่า 20,000 บาท และ เหรียญทองมูลค่าถึง 200,000 บาท          พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รอง ผกก.สายตรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกับสถานีวิทยุ จส.100 ว่า วัยรุ่นล่าเหรียญ เกมส์'Jagat Coin Hunt' ทำชาวบ้านเดือดร้อน แอปฯดังกล่าวเข้ามาในไทยเมื่อวันที่ 15 ม.ค.68 ยอดดาวน์โหลดเป็นอันดับ 1 เป็นหลักหมื่น ใน กทม.หลักพัน พร้อมทั้งเตือนว่าการค้นหาเหรียญ พื้นที่หรือพิกัดเหรียญที่อยู่ในที่เปลี่ยว ก็ไม่ควรเข้าไป หรือ ตามบ้านผู้คนต่างๆ ในยามวิกาล จะโดนข้อหาบุกรุกได้  วิธีการหาเหรียญตัวแอปฯจะแชร์ตำแหน่ง เป็นรัศมีวงกลม และ จุดศูนย์กลาง จะวนเวียนบริเวณรัศมีที่แจ้ง และมีคนนำเหรียญไปวางตามจุดต่างๆ ตำรวจกำลังหาตัวแอดมินคนที่วางเหรียญและหาตัวคนนำเข้าแอปฯนี้



 



#ล่าเหรียญJagat



Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ตำรวจไซเบอร์ บช.-สอท.

ข่าวทั้งหมด

X