แถลงการณ์ สธ.-รพ.ระยอง ปกป้อง 'พยาบาล' ถูกญาติผู้ป่วยตบ ดำเนินคดีถึงที่สุด

18 กุมภาพันธ์ 2568, 13:50น.


           จากกรณีพยาบาลโรงพยาบาลในจังหวัดระยอง ถูกญาติคนไข้ทำร้ายร่างกาย ด้วยการตบอย่างหนัก 2 ครั้ง เนื่องจาก ห้ามไม่ให้นำเด็กเข้าเยี่ยมผู้ป่วย ซึ่งมีอาการทางเดินหายใจ



           นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีญาติผู้ป่วย ตบพยาบาลระหว่างที่เข้าไปแจ้งเตือนไม่ให้นำเด็กเล็กเข้าไปในห้อง ICU เนื่องจาก เป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดการติดเชื้อในเด็กเล็กอันตรายถึงกับชีวิตว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมว่าพยาบาลที่ถูกทำร้ายร่างกายมีการบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน ต้องรักษาตัวเกิน 20 วันหรือไม่ หากเกินจากนี้จะถือว่าบาดเจ็บสาหัส เพราะจากคลิปที่ปรากฏจะพบว่าถูกตบเข้าที่บริเวณกกหู ต้องดูว่ากระดูกคอเคลื่อนด้วยหรือไม่ ต้องมีการเอกซเรย์ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด 



           ส่วนผู้ที่กระทำความรุนแรงตอนนี้ข้อหาที่จะต้องโดนแน่ๆ คือทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน นี่ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายทั่วไป นอกจากนี้ก็จะดูด้วยว่ามีการเข้าไปในพื้นที่แล้วขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่หรือไม่ว่าจะเข้ากับข้อหาอะไร ขอย้ำว่าคดีทางอาญาก็โดนไปและจะต้องโดนคดีทางแพ่งด้วย เพราะกำลังตรวจสอบว่า มีความเสียหายอื่นๆ เกิดขึ้นด้วยหรือไม่



           นายกองตรี ดร.ธนกฤต ยืนยันว่าไม่มีการยอมความแน่นอน เพราะต้องดูว่าเป็นความผิดส่วนตัวหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็อยู่ที่แต่ละบุคคล แต่กรณีนี้พยาบาลอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ มันยอมความไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการร้องทุกข์เอาไว้ รอผลตรวจพิสูจน์ จากคุณหมอก่อนหากเรียบร้อยแล้วถึงจะมีการกล่าวโทษ ว่าจะมีข้อหาอะไรบ้าง หากโทษไม่เกิน 3 ปีก็จะออกหมายเรียก แต่หากอัตราโทษเกิน 5 ปีก็จะต้องขอหมายจับ เคสนี้เราดำเนินการเอาผิดจริง



            ด้าน นพ.ภูษิต ทรัพย์สมพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า ได้มีการแจ้งความตั้งแต่เหตุเกิดวันแรกแล้ว ไม่มีการยอมความเด็ดขาด ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของบุคลากรมาก เมื่อเกิดเหตุขึ้นไม่มีทางยอมความแน่นอน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี ซึ่งยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะเป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งดูแลจิตใจพยาบาลรายดังกล่าว



         เมื่อถามว่าจำเป็นต้องมีมาตรการอะไรในเรื่องการเข้าเยี่ยมของญาติที่อาจก่อความรุนแรงหรือไม่ นพ.ภูษิต กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่ให้ญาติเยี่ยมอยู่แล้วที่ห้องไอซียู ซึ่งจะเปิดให้เยี่ยมเป็นช่วง มีช่วงเที่ยงกับเย็น แต่เคสนี้ห้ามยาก เพราะเข้าเยี่ยมช่วงที่เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมอยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยอารมณ์ ความเป็นห่วงญาติ ทำให้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ ทั้งที่พยาบาลแจ้งเตือน เพราะเป็นห่วงว่า การนำเด็กเข้าเยี่ยมอาจเกิดการติดเชื้อได้ เพราะผู้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ติดเชื้อที่ปอด ซึ่งโรคระบบทางเดินหายใจ เป็นโรคที่ติดต่อแพร่สู่กันได้ เป็นความหวังดีของพยาบาลในการแจ้งเตือน



          เมื่อถามว่ามีคนมองว่า อาจเพราะพยาบาลพูดจาไม่ดี ซึ่งแน่นอนว่าคนละประเด็นกับความรุนแรง แต่จะมีการกำชับเรื่องการสื่อสารหรือไม่ นพ.ภูษิต กล่าวว่า จริงๆการรับรู้แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่างญาติป่วยอยู่แล้ว ก็ย่อมมีการแปลความหมายทำให้หงุดหงิดได้ น้ำเสียงการสื่อสาร แม้เตือนด้วยความหวังดีก็อาจไม่ถูกใจ แต่ความรุนแรงก็ไม่ควรเกิดขึ้น โรงพยาบาลเราดูแลรักษาคนไข้ ดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ทั้งคนไข้ และบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ญาติ ผู้ใช้บริการ เราคำนึงความปลอดภัยทั้งหมด ดังนั้น บางอย่างอาจไม่สะดวกไปบ้าง ก็ขอความกรุณาเข้าใจ แต่เรื่องความรุนแรงก็ไม่ควรเกิดขึ้น



 #พยาบาลถูกตบ



#ดำเนินคดีเด็ดขาด



#กระทรวงสาธารณสุข



Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ Hfocus



 



 

ข่าวทั้งหมด

X