กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMFเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ในวันนี้ (22 เม.ย.) โดยคาดว่า เศรษฐกิจโลก จะมีการขยายตัวร้อยละ 2.8 และร้อยละ 3.0 ในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับร้อยละ 3.3 สำหรับปี 2568 และ 2569 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ ประมาณการณ์ดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรอบ 20 ปีระหว่างปี 2543-2562 ที่ระดับร้อยละ 3.7
นอกจากนี้ IMF เตือนว่าความไม่แน่นอนของมาตรการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบทางลบต่อแนวโน้มและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ IMF คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว ร้อยละ 1.8ในปี 2568 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับร้อยละ 2.7ขณะที่ IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของยูโรโซนสู่ระดับร้อยละ 0.8 ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ ร้อยละ 1.0
ขณะเดียวกัน IMF คาดว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการขยายตัวร้อยละ 1.4ในปี 2568 ขณะที่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาจะชะลอตัวสู่ระดับร้อยละ 3.7 ส่วนไทยถูกปรับลดเหลือ ร้อยละ 1.8 เช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวในวันอังคาร(22เม.ย.) จากรายงานผลประกอบการของหลายบริษัท และแนวโน้มต่างๆที่บ่งชี้ว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกกิ่งอาจผ่อนคลายลง
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1,016.57 จุด (2.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 39,186.98 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 129.56 จุด (2.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,287.76 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 429.52 จุด (2.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,300.42 จุด
ราคาทองคำขยับลงมากกว่าร้อยละ 1 ในวันอังคาร(22เม.ย.) หลัง ทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 3,419.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#IMF