!-- AdAsia Headcode -->

“มือใหม่หัดบิน” เช็คอินง่ายๆ แบบมือโปรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

05 กรกฎาคม 2560, 07:28น.


     สมัยนี้ การเดินทางด้วยเครื่องบินอาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ไหนจะค่าโดยสารที่ไม่แพงเหมือนสมัยก่อน โปรโมชั่นที่ลดแลกแจกแถมทั้งที่พักและการเดินทาง แต่เชื่อว่ายังมีบางคนที่อาจไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องอย่างไรบ้าง  ต้องทำอะไร ไปตรงไหน ฉะนั้นมาดูกันดีกว่าว่าควรทำอย่างไรจะได้ไม่เด๋อด๋าเมื่อก้าวเข้ามาในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ Let’s go!!




เช็คข้อมูลการเดินทาง


     เกริ่นก่อนว่า คนที่มากับกรุ๊ปทัวร์ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะมีไกด์คอยจัดการให้ แต่สำหรับใครที่เพิ่งบินเดี่ยวครั้งแรก ก่อนอื่นควรมาถึงสนามบินก่อนเวลาเครื่องออก 2 ชั่วโมง เมื่อมาถึงให้คุณมุ่งหน้าไปหาจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อดูเที่ยวบิน ซึ่งจะแสดงโลโก้สายการบิน ชื่อจุดหมายปลายทาง เวลาที่เครื่องบินออก ช่องเคาน์เตอร์ รวมถึงสถานะว่ายังเช็คอินได้หรือไม่ โดยขั้นตอนนี้แนะนำว่า ให้เริ่มมองไล่จากเวลาก่อนเลย จะได้ไม่งงกันนะคะ




     แต่เพ่งแล้วเพ่งอีกก็ยังสับสน ให้มองหาตู้สีขาวเครื่องยักษ์ที่เรียกว่า KIOSK INFORMATION สังเกตได้จากเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่ด้านบน ทั้งหมด 53 เครื่อง กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งเจ้าตู้สารพัดประโยชน์นี้สามารถช่วยคุณได้หลายอย่าง อาทิ


- บอกกฎระเบียบก่อนที่คุณจะต้องขึ้นเครื่องบิน


- ระบุสายการบิน


- ระบบนำทางไปที่เกต โดยสแกนจากตั๋วเครื่องบิน


- พิมพ์แผนที่นำทางไปเกต และ รายละเอียดของเที่ยวบิน


- ด้านข้างมีโทรศัพท์ใช้ติดต่อคอนแทคเซ็นเตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะบอกว่าขณะนี้คุณอยู่ตรงจุดไหนและแนะนำทางให้


- ผู้ใช้วีลแชร์สามารถใช้บริการตู้นี้ได้อย่างสะดวกเช่นกัน เพียงกดที่สัญลักษณ์วีลแชร์ซึ่งจัดวางอยู่ในตำแหน่งด้านล่างซ้ายมือ


สิ่งของต้องห้าม


สำหรับบางคนที่เพิ่งเคยขึ้นเครื่องเป็นครั้งแรก อาจจะยังไม่ทราบกฎระเบียบของสนามบินเท่าไร ภายในสนามบินจะมีตู้ตั้งเตือนผู้โดยสาร  มีผลิตภัณฑ์จำลองที่ผิดกฎระเบียบของสนามบิน มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษกำกับอยู่ 




      ชั้นบนของตู้จะแสดงของจำลองที่ห้ามขึ้นเครื่องและห้ามโหลดลงใต้เครื่องเด็ดขาด ได้แก่ สารเคมี ยาฆ่าแมลง น้ำกรด ปุ๋ย โซดาไฟ วัตถุระเบิด อาวุธ วัตถุไวไฟ สารติดเชื้อ และวัสดุอันตรายอื่นๆ




     ชั้นล่างของตู้แสดงของที่ห้ามขึ้นเครื่อง (หรือนำขึ้นได้ในปริมาณจำกัด) แต่สามารถโหลดได้ คือ ของมีคม, ของเหลว, เจล, สเปรย์, ครีม (100 ml / ชิ้น และ 1 คนได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ถ้าเกินให้โหลด) ส่วน Power Bank 1 คน ต้องไม่เกิน 2 อัน และความจุแบตเตอร์รี่ห้ามเกิน 32,000 mAh ถ้าความจุเกินก็ไม่สามารถโหลดได้เช่นกัน




การเช็คอิน


เมื่อทราบข้อมูลการเดินทางแล้ว เริ่มเช็คอินกันได้เลย!! การเช็คอินที่สนามบินมี 2 วิธี 


1. การเช็คอินเคาน์เตอร์ปกติ คือ เดินไปตามเคาท์เตอร์ที่เราทราบจากหน้าจอเที่ยวบิน เพื่อต่อแถวรอพบเจ้าหน้าที่ และทำการโหลดกระเป๋าลงใต้ท้องเครื่อง โดยให้ถือตั๋วและบัตรประชาชนรอไว้




2. การเช็คอินที่ตู้ KIOSK CUSS (Common Use Self Service Check-in) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่อยากต่อแถวให้เมื่อยขา คุณสามารถเช็คอินง่ายๆด้วยตัวเอง เริ่มจากเลือกสายการบินของคุณ ใช้หมายเลขพาสปอร์ต หมายเลขตั๋ว และหมายเลขการจอง จากนั้นถ้ามีกระเป๋าที่ต้องโหลดให้ไปช่อง Bag Drop บริเวณเคาท์เตอร์ของเที่ยวบินคุณ ซึ่งแถวคนต่อคิวจะสั้นกว่ามาก เอาเวลาต่อคิวไปเดินช้อปปิ้งใน duty free สบายๆ




     หมายเหตุ หากใครมีกระเป๋าที่ใหญ่เกินขนาดที่จะโหลดลงสายสะพาน หรือมีน้ำหนักเกิน 30 กิโลกรัมขึ้นไป เช่น จักรยาน รถเข็นเด็ก ถุงกอล์ฟ ฯลฯ ให้ไปที่ช่องส่งกระเป๋าเกินขนาด (Oversize Baggage Check-in) ซึ่งจะอยู่ก่อนเข้าจุดตรวจผู้โดยสาร


จุดตรวจค้น


     เมื่อเช็คอินและโหลดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ให้เดินมาที่จุดตรวจค้น ซึ่งจะเป็นจุดสุดท้ายก่อนไปถึงฝ่ายตรวจคนเข้าออกเมือง จุดนี้จะเน้นเรื่องความปลอดภัย เริ่มจากสแกนตั๋วว่าคุณมาถูกจุดหรือไม่ จากนั้นเข้าคิวไปยังเครื่องเอ็กซเรย์สัมภาระ และตรวจร่างกายด้วยเครื่อง Body Scan  อ้อ! ในขั้นตอนนี้ ไม่ต้องถึงกับถอดเสื้อผ้า แต่ต้องถอด หมวก แว่น แจ็กเก็ต และรองเท้าด้วยนะ




    จุดนี้มักจะเป็นอีกจุดที่พบปัญหาบ่อยครั้ง โดยเฉพาะการทิ้งสิ่งของต้องห้ามตามที่ตู้ตั้งเตือนบอกตั้งแต่ก่อนเช็คอิน แต่ก็มักพบ กรรไกร มีด ไขควง กระสุนปืน และของเหลวต่างๆ รวมถึงน้ำดื่มห้ามนำขึ้นเครื่องเด็ดขาด


ถ้าถูกห้ามนำสิ่งของขึ้นเครื่อง!?


ตามที่บอกว่า มีสิ่งของมากมายถูกทิ้งที่จุดตรวจค้น แต่ถ้าไม่อยากทิ้งต้องทำอย่างไร ?


1. รีบย้อนกลับไปโหลดใส่กระเป๋า กรณีถ้าทันเวลา หรือเป็นสิ่งของที่ยังพออนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่อง




2. ส่งไปรษณีย์กลับ เป็นทางเลือกใหม่ล่าสุดโดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เรียกว่าตู้ APM เป็นบริการไปรษณีย์อัตโนมัติส่งของไปยังปลายทางได้ทั้งในและต่างประเทศ สัมผัสที่หน้าจอ ชั่งสิ่งของซึ่งต้องไม่เกิน 500 กรัม จากนั้นเลือกจุดหมายปลายทางและจะได้รับซองกันกระแทกเพื่อบรรจุสิ่งของ เสียค่าบริการ (อัตราค่าบริการจะเป็นไปตามไปรษณีย์ไทยกำหนด และขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางที่ส่ง) และฝากของลงในช่องด้านล่างตู้ เท่านี้เป็นอันเรียบร้อยไม่ต้องทิ้งของให้เสียดาย




     อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีเตรียมตัวให้พร้อม จะได้ไม่ต้องทิ้งของรักของหวงที่บางครั้งเราอาจไม่มีเจตนาจะฝ่าฝืน แต่เผลอลืมนำออกก็เป็นได้ จุดนี้น้ำตาตกกันมาเยอะแล้วนะคะ T*T


    ผู้เขียนหวังว่า บทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับ “มือใหม่หัดบิน” ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะกว้างใหญ่และซับซ้อนขนาดไหน  แต่เมื่อรู้ทริคและจุดอำนวยความสะดวกต่างๆ เหล่านี้ คุณก็จะไม่หลง ไม่งง กับขั้นตอนการเช็คอินอีกต่อไป แล้วมาดูกันว่ารอบหน้าเราจะพาคุณไปสำรวจส่วนไหนของสุวรรณภูมิต่อ บ๊ายบายยย


By : Earth Earth & Ning Ning
X