ในแต่ละวัน เราใช้พลังงานในการทำกิจวัตรประจำวัน ทำงาน และกิจกรรมต่างๆ ไม่เท่ากัน คนที่ทำงานหนักแล้วรู้สึกเหนื่อยย่อมเป็นเรื่องปกติ บางคนมีโรคประจำตัวทำให้เหนื่อยง่ายกว่าคนอื่น แต่ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลียเสมอๆ โดยไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร มาลองเช็กดูว่า ใช่ 1 ใน 9 สาเหตุนี้หรือไม่?
1. ง่วงนอนเพราะดื่มกาแฟมากไป
“คาแฟอีนทำให้ง่วง” ฟังแล้วดูจะขัดแย้งกับสิ่งที่เราเคยรู้มาก่อน ซึ่งที่จริงถ้าเราดื่มกาแฟในปริมาณปกติ และไม่เข้มข้นจนเกินไป ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าถึงขั้นดื่มแทนน้ำเปล่า ดื่มไม่เป็นเวลา ปัญหาที่ตามมาคืออาการตาค้าง นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทในตอนกลางคืน ส่งผลให้ง่วงเหงาหาวนอนในตอนกลางวัน นั่นคือที่มาของ “คาแฟอีนทำให้ง่วง”
2. ร่างกายขาดน้ำ
“อาการขาดน้ำ” เป็นสาเหตุของความอ่อนเพลีย เหมือนต้นไม้ที่ไม่ได้น้ำหลายวันก็แห้งเหี่ยว เมื่อร่างกายขาดน้ำ จะทำให้ปวดหัว, ไม่มีสมาธิ, หงุดหงิดง่าย และที่เห็นได้ชัดคือ กระหายน้ำ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แค่ในระหว่างวัน ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น และเลือกกินอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบสูง เช่น ผัก ผลไม้ เป็นต้น
เคล็ดลับ : หมั่นเติมน้ำในแก้วของคุณทุกๆ 2 ชั่วโมง และยกแก้วน้ำขึ้นจิบบ่อยๆ ไม่ควรรอให้รู้สึกกระหายแล้วค่อยดื่ม เพราะนั่นหมายความว่า คุณกำลังเข้าสู่ภาวะขาดน้ำนั่นเอง
3. ออกกำลังกายน้อยไปมั้ย?
“ออกกำลังกายน้อยไป ก็ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้” ฟังดูขัดกันยังไงอยู่ใช่มั้ยคะ แต่การนั่งอยู่กับที่ตลอดทั้งวันจะทำให้คุณรู้สึกเพลียมากกว่าเดิม การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายผลิตเอ็นดอร์ฟิน(สารสร้างความสุข) และช่วยเติมพลังให้แก่ร่างกายมากขึ้น เพราะฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกง่วง จงลุกจากเก้าอี้ ออกไปเดิน ขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง แล้วความง่วงก็จะหายไป
4. นอนหลับไม่เต็มที่
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกเพลีย ล้า อยากนอนอยู่เสมอ อาจเพราะในตอนกลางคืนคุณไม่ได้นอนอย่างเต็มที่ กรณีนี้ต่อให้ดื่มกาแฟกี่แก้วก็คงไม่ช่วยให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าเมื่อคืนที่ผ่านมาคุณจะได้นอนมากกว่า 8 ชั่วโมง แต่กลับตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกหมดแรง ไม่สดชื่น เราแนะนำว่าคุณควรเดินทางไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยเกี่ยวกับภาวะผิดปกติในการนอนหลับ และหาทางรักษาก่อนที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น
5. กิน(แป้ง)คาร์โบไฮเดรตมากไปรึเปล่า?
บางครั้งอาหารที่เรารับประทานก็ทำให้ร่างกายล้าได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว* หากกินอาหารพวกนี้มากเกินไปจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น ตับอ่อนก็จะผลิตฮอร์โมนอินซูลินออกมาเพื่อลดระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับปกติ แต่เมื่อไรที่มีการผลิตฮอร์โมนนี้ออกมามากจนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว ผลที่ตามมาก็คือ อาการง่วงนอน ,อ่อนล้า และยังเพิ่มความรู้สึกอยากอาหารมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้น ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่พอดี เพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ และเปลี่ยนเป็นพลังงานให้เราสามารถทำกิจวัตรต่างๆ ได้ตามปกติ
*คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว หรือคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี เช่น แป้งขัดสี, ข้าวขาว ขนมปังขาว เป็นเต้น อาหารเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการขัดสี ปรุงแต่ง ดัดแปลง ให้มีรสชาติอร่อย กินง่ายขึ้น รวมทั้งมีการเติมสารกันบูด สี กลิ่นสังเคราะห์ และน้ำตาลปริมาณมาก ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอ้วน และโรคเรื้อรังอื่น ๆ ตามมา
6. กินน้อยเท่ามด ก็หมดแรง
การกินอาหารผิด อาจทำให้คุณป่วยได้ ส่วนคนที่กินน้อยจนเกินไป ร่างกายขาดอาหารที่จะเปลี่ยนเป็นพลังงาน ทำให้ไม่มีแรงและเหนื่อยง่าย ดังนั้น เพื่อให้ทุกส่วนของร่ายกายทำงานได้ตามปกติในแต่ละมื้อเราจำเป็นต้องได้รับสารอาหารครบถ้วน และเพียงพอ การจำกัดปริมาณอาหารโดยไม่คำนึงถึงความสมดุลของร่างกาย ย่อมทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากหมดแรงก่อนที่จะทำงานเสร็จ ในมื้อเช้าและกลางวันให้เน้นกินอาหารจำพวกโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน** รวมถึงผักและผลไม่ในปริมาณที่พอเหมาะ และหลีกเลี่ยงอาหารขยะ ซึ่งเราต่างรู้กันดีว่า มีทั้งน้ำตาลและไขมันสูง หากกินมากไปก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคตได้
**คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หรือคาร์โบไฮเดรตชนิดดี ได้แก่ แป้งไม่ขัดขาว ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังธัญพืช(โฮลวีต) เมล็ดพืช ธัญพืช เผือก มัน เป็นต้น
7. เครียดมาก ร่างกายก็ล้าได้
ความเครียดที่สะสมมาอย่างยาวนาน อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของความเมื่อยล้า ถ้าคุณรู้สึกถึงความเครียดที่ประดังเข้ามาบ่อยๆ ให้ลองหาวิธีที่จะจัดการกับความเครียดนั้น ถึงตอนนี้คุณต้องยอมรับความจริง และยอมเข้ารับการบำบัดความเครียด บางครั้งอาจต้องพึ่งยาคลายเครียด หรือแม้แต่วิธีธรรมชาติบำบัด
8. คุณตั้งเป้าหมายไว้สูงไปรึเปล่า
หลายคนคิดว่าตัวเองพักผ่อนเพียงพอแล้ว แต่กลับตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเพลีย ตาปรือ หมดสภาพ ทำงานไม่ได้ บางทีนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณทำงานหนักไป เพราะฉะนั้นจงปล่อยวาง พักเรื่องงานไว้บ้าง ร่างกายและสมองจะได้พักเพื่อเติมพลังให้พร้อมสำหรับความท้าทายต่อๆ ไป
9. คุณกำลังทุกข์ทรมานจากอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มักรู้สึกเหนื่อยบ่อยอย่างไม่มีสาเหตุบ่งชี้แน่นอน อาจเป็นไปได้ว่า ร่างกายกำลังเข้าสู่ภาวะของอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง และถ้าอาการหมดแรงนั้นเลวร้ายจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทางที่ดีก็ควรพาตัวเองไปพบแพทย์ เพื่อรับการทดสอบหาเหตุของอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น จะได้รีบรักษาก่อนที่จะรุนแรงมากกว่าเดิม
ที่มา : healthyleo.com
ภาพประกอบ : blog.fitwell.co, sbs.com.au , thisisinsider.com, newhealthadvisor.com, healingthebody.ca, juohco.com, bigthink.com, healingwithnutrition.com, internetvibes.net